แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นแต่เฉพาะในเรื่องจำนวนเงินค่าปรับที่ลงแก่จำเลยในความผิดฐานฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติ ตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ปรับจำเลย 105,000 บาท เป็นว่า ให้ปรับเป็นเงิน 57,666.67 บาท เป็นการแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นแต่เพียงเล็กน้อย ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้รับอนุญาตให้ปลูกสร้างอาคารโรงมหรสพ ได้บังอาจปลูกสร้างผิดแผกจากแผนผังแบบก่อสร้างและรายการ นายกเทศมนตรีฯ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้สั่งให้จำเลยแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ถูกต้องแล้ว แต่จำเลยไม่ปฏิบัติตามภายในระยะเวลาที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกำหนด เป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร พ.ศ. ๒๔๗๙ มาตรา ๑๑ วรรคหนึ่งและวรรคสอง ฯลฯ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร พ.ศ. ๒๔๗๙ มาตรา ๑๑ วรรคหนึ่ง และวรรคสอง พระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๗๙ มาตรา ๓ ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๑๙๒ (พ.ศ. ๒๕๑๕) ข้อ ๓ ให้ลงโทษฐานปลูกสร้างอาคารโรงมหรสพผิดแผกจากแผนผังแบบก่อสร้าง ปรับ ๒,๕๐๐ บาท ฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเป็นเวลา ๑๕๕ วัน ปรับวันละ ๑,๐๐๐ บาท เป็นเงิน ๑๕๕,๐๐๐ บาท รวมปรับ ๑๕๗,๕๐๐ บาท จำเลยรับสารภาพในชั้นสอบสวน มีเหตุบรรเทาโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ ลดโทษให้ ๑ ใน ๓ คงปรับ ๑๐๕,๐๐๐ บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙,๓๐
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ปรับจำเลยฐานปลูกสร้างอาคารไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเป็นเวลา ๘๔ วัน วันละ ๑,๐๐๐ บาท เป็นเงิน ๘๔,๐๐๐ บาท รวมกับโทษปรับฐานปลูกสร้างอาคารโรงมหรสพผิดแผกจากแผนผังแบบก่อสร้างอีก ๒,๕๐๐ บาท รวมเป็นปรับ ๘๖,๕๐๐ บาท คำให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา เป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ ๑ ใน ๓ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงปรับ ๕๗,๖๖๖.๖๗ บาทนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์และจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น แต่เฉพาะในเรื่องจำนวนเงินค่าปรับที่ลงแก่จำเลยในความผิดฐานฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเป็นว่า ให้ปรับเป็นเงิน ๘๔,๐๐๐ บาท โดยฟังว่าจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งตั้งแต่วันที่ ๑๖ พฤกษาคม ๒๕๒๑ ถึงวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๒๑ เป็นเวลาเพียง ๘๔ วัน ปรับเป็นรายวัน วันละ ๑,๐๐๐ บาทนั้น เป็นการแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นแต่เพียงเล็กน้อย ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๑๘ จำเลยฎีกาว่ามิได้ให้กระทำการก่อสร้างอาคารผิดแบบและมิได้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ ท้องถิ่นตามที่โจทก์ฟ้องแต่อย่างใด ส่วนโจทก์ฎีกาว่าข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าหน้าที่ ท้องถิ่น ตั้งแต่วันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๒๑ ถึงวันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๒๑ จะต้องคิดคำนวณค่าปรับจำเลยตามจำนวนวันที่กล่าวนี้ ศาลอุทธรณ์คิดคำนวณค่าปรับตั้งแต่วันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๒๑ ถึงวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๒๑ เป็นเวลาเพียง ๘๔ วัน ไม่ถูกต้องนั้น ฎีกาของจำเลยและโจทก์เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามฎีกาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๑๘ ดังกล่าวข้างต้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย ให้ยกฎีกาของโจทก์และจำเลย