แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้จำเลยจะคัดค้านการถอนฟ้อง แต่การที่ศาลจะอนุญาตให้ถอนฟ้องหรือไม่นั้นเป็นดุลพินิจของศาล โดยพิจารณาถึงเหตุผลและความจำเป็นว่าสมควรหรือไม่ประการใด เป็นการถอนฟ้องไปเพื่อที่จะฟ้องใหม่ โดยแก้ไขฟ้องเดิมที่บกพร่องอันเป็นการเอาเปรียบในเชิงคดีกับอีกฝ่ายหนึ่งหรือไม่ ฟ้องของโจทก์โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 4 ไม่มีข้อบกพร่องปรากฏให้เห็นว่าจะเป็นการถอนฟ้องไปเพื่อฟ้องใหม่อันเป็นการเอาเปรียบในเชิงคดีแต่โจทก์มีความจำเป็นสำหรับจำเลยอื่นที่จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดไว้ก่อน โดยข้อเท็จจริงที่เป็นที่มาแห่งความจำเป็นนี้ปรากฏแก่โจทก์หลังจากฟ้องคดีไปแล้วถ้าจะถอนฟ้องเฉพาะจำเลยที่จำเป็นโดยไม่ถอนฟ้องจำเลยในคดีนี้ทั้งหมด ก็จะทำให้ต้องมีการพิจารณาคดีในหนี้ที่โจทก์ฟ้องถึงสองครั้ง เป็นการเสียเวลาในการดำเนินคดีโดยไม่จำเป็น ชอบที่จะอนุญาตให้ถอนฟ้องรวมถึงจำเลยที่ 4ได้ แม้จำเลยที่ 4 จะคัดค้าน.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีไปจากโจทก์ยังค้างชำระเงินอยู่ 1,412,663.96 บาท จำเลยที่ 1 ถึงที่ 7จำนองที่ดินเป็นประกันโดยจำเลยที่ 4 จำนองในวงเงิน 200,000 บาทนอกจากนี้จำเลยที่ 2 ถึงที่ 7 ได้ทำสัญญาค้ำประกันเงินกู้ โดยยอมรับผิดกับจำเลยที่ 1 อย่างลูกหนี้ร่วม ขอให้จำเลยทั้งเจ็ดชำระหนี้ไถ่ถอนจำนอง
จำเลยที่ 4 ให้การว่า จำเลยที่ 1 ไม่ได้ทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีกับโจทก์ การคิดดอกเบี้ยทบต้นของโจทก์ไม่ถูกต้อง ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม จำเลยที่ 4 รับผิดเพียง 200,000 บาทตามสัญญาจำนอง และโจทก์ได้รับเงินค่าเวนคืนที่ดินของจำเลยที่ 4จากกรมชลประทานไป 73,500 บาท แล้วขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 5, ที่ 6 และที่ 7 ขาดนัดยื่นคำให้การ
ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้อง โดยอ้างว่าจำเลยที่ 3ถึงแก่กรรมก่อนโจทก์ยื่นฟ้อง โจทก์จะต้องแจ้งการบังคับจำนองไปยังทายาทของจำเลยที่ 3 ก่อน จึงขอถอนฟ้องเพื่อดำเนินการต่อไป
จำเลยที่ 4 ยื่นคำคัดค้านว่า การที่โจทก์มิได้แจ้งบังคับจำนองไปยังทายาทของจำเลยที่ 3 ทั้งที่จำเลยที่ 3 ถึงแก่กรรมก่อนฟ้องเป็นความบกพร่องของโจทก์เอง หากศาลอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องก็จะทำให้จำเลยที่ 4 เสียเปรียบและได้รับความเสียหาย เพราะโจทก์อาจฟ้องจำเลยที่ 4 เป็นคดีใหม่ ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้ จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
จำเลยที่ 4 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 4 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาวินิจฉัยว่า สมควรอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องหรือไม่ เห็นว่า ถึงแม้จำเลยที่ 4 จะคัดค้านการถอนฟ้องของโจทก์ก็ตาม แต่การที่ศาลจะอนุญาตให้ถอนฟ้องหรือไม่นั้นเป็นดุลพินิจของศาล โดยพิจารณาถึงเหตุผลและความจำเป็นว่าสมควรหรือไม่ประการใด เป็นการถอนฟ้องไปเพื่อเจตนาที่จะฟ้องใหม่โดยแก้ไขฟ้องเดิมที่บกพร่อง อันเป็นการเอาเปรียบในเชิงคดีกับอีกฝ่ายหนึ่งหรือไม่ ได้พิจารณาคำฟ้องของโจทก์โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับความรับผิดของจำเลยที่ 4 ก็ไม่มีข้อบกพร่องปรากฏให้เห็นว่าจะเป็นการถอนฟ้องไปเพื่อฟ้องใหม่อันเป็นการเอาเปรียบในเชิงคดี แต่โจทก์มีความจำเป็นสำหรับจำเลยอื่นที่จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดไว้ก่อนโดยข้อเท็จจริงที่เป็นที่มาแห่งความจำเป็นนี้ปรากฏแก่โจทก์หลังจากฟ้องคดีไปแล้ว ถ้าจะถอนฟ้องเฉพาะจำเลยที่จำเป็นโดยไม่ถอนฟ้องจำเลยในคดีนี้ทั้งหมด ก็จะทำให้ต้องมีการพิจารณาคดีในหนี้ที่โจทก์ฟ้องถึงสามครั้ง เป็นการเสียเวลาในการดำเนินคดีโดยไม่จำเป็นดังนั้น ที่ศาลล่างทั้งสองใช้ดุลพินิจอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องไปนั้นจึงเป็นการชอบแล้ว
พิพากษายืน.