คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1572/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ ฟ้องของโจทก์ไม่ได้กล่าวระบุวันเวลาที่จำเลยคิดทุจริตยักยอกเอาทรัพย์ไป คงกล่าวแต่วันเวลาที่จำเลยได้รับมอบหมายทรัพย์เท่านั้น ทั้งไม่อาจเข้าใจได้ว่าจำเลยยักยอกทรัพย์ที่ได้รับมอบหมายไปวันใด ดังนี้ฟ้องของโจทก์ย่อมไม่สมบูรณ์ตาม กฎหมาย (อ้างฎีกาที่ 117/2492)

ย่อยาว

โจทก์กล่าวฟ้องว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานดูเงินแผนกคลังจังหวัดสิงห์บุรี มีหน้าที่เก็บรักษาเงินคงเหลือวันหนึ่ง ๆ เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2497 เวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกันคลังจังหวัดฯ สั่งให้จำเลยนำเงินคลังนอก 62,319.10 บาท ประจำวันที่ 29 เมษายน 2497 เข้าเก็บในกำปั่น แล้วจำเลยได้มีเจตนาทุจริตบังอาจยักยอกเงินที่จำเลยเก็บรักษานี้ไป 10,000 บาท (จำเลยได้นำเงินที่ยักยอกนี้คืนแล้ว) ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 131 ที่แก้ไข

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันลงโทษจำคุกจำเลย2 ปี ตามตัวบทกฎหมายที่ฟ้อง

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าตามฟ้องของโจทก์กล่าวไว้เข้าใจได้เพียงว่าวันที่ 29 เมษายน 2497 เวลากลางวันและกลางคืนติดต่อกัน คลังจังหวัดสิงห์บุรีได้สั่งให้จำเลยนำเงินคลังนอกของรัฐบาลจำนวน62,319.10 บาท ประจำวันที่ 29 เมษายน 2497 เข้าไปเก็บในกำปั่นคลังนอกแล้วจำเลยได้มีเจตนาทุจริตบังอาจยักยอกเงินที่จำเลยเก็บรักษาไว้เป็นประโยชน์ส่วนตัวของจำเลยเป็นเงิน 10,000 บาท ฯลฯแต่โจทก์ไม่ได้กล่าวระบุวันเวลาไว้ในฟ้องว่าจำเลยได้คิดทุจริตยักยอกเอาเงินจำนวน 10,000 บาท นั้นไว้วันใด เดือนใด เวลาใดและจะพิเคราะห์ตีความเอาว่าโจทก์หมายเอาวันที่ 29 เมษายน 2497 นั้นเองเป็นวันที่จำเลยกระทำผิดก็ไม่ได้เพราะไม่มีข้อความตอนใดที่จะให้เข้าใจได้ดังนั้นแม้แต่วันที่โจทก์รู้ว่าจำเลยยักยอกก็ไม่ปรากฏในฟ้องฉะนั้นฟ้องของโจทก์จึงไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ 117/2492 ระหว่างอัยการจังหวัดสงขลาโจทก์ นายชิ้วเอี่ยน ช่วยชาติ จำเลย

จึงพิพากษากลับยกฟ้องโจทก์

Share