คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1571/2540

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การที่จำเลยช่วยเหลือคนต่างด้าวให้เข้ามาในราชอาณาจักรโดยใช้รถจักรยานยนต์รับคนต่างด้าวดังกล่าวพาไปเพื่อให้พ้นจากการจับกุมนั้นการช่วยเหลือดังกล่าวมิจำเป็นต้องใช้พาหนะรถจักรยานยนต์ในการช่วยเหลือรถจักรยานยนต์ของกลางถือไม่ได้ว่าเป็นทรัพย์สินที่จำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิดโดยตรงจึงเป็นทรัพย์สินที่ไม่ควรริบ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองพ.ศ. 2522 มาตรา 4, 64 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 และริบรถจักรยานยนต์ของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 64 วรรคหนึ่ง จำคุก 6 เดือน และปรับ 6,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78คงจำคุก 3 เดือน และปรับ 3,000 บาท จำเลยไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29, 30 ไม่ริบรถจักรยานยนต์ของกลาง เนื่องจากไม่ใช่เป็นทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดโดยตรง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่โจทก์ฎีกาขอให้ศาลฎีการิบรถจักรยานยนต์ของกลางนั้นข้อเท็จจริงฟังได้ตามคำฟ้องและคำรับสารภาพของจำเลยว่า วันเวลาเกิดเหตุตามคำฟ้องจำเลยช่วยเหลือชายสัญชาติพม่า เชื้อชาติพม่า ซึ่งเป็นคนต่างด้าวมีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศพม่า และเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย โดยใช้รถจักรยานยนต์คันหมายเลขทะเบียน ราชบุรี ฆ-5448 รับชายพม่าคนต่างด้าวดังกล่าวพาไปเพื่อให้พ้นจากการจับกุมโดยรู้ว่าชายดังกล่าวเป็นคนต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรเห็นว่าการกระทำความผิดของจำเลยตามฟ้องเป็นความผิดในข้อที่จำเลยได้ช่วยเหลือด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวพ้นจากการจับกุมซึ่งการช่วยเหลือด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวพ้นจากการจับกุมดังกล่าว มิจำเป็นต้องใช้พาหนะรถจักรยานยนต์ของกลางในการช่วยเหลือ รถจักรยานยนต์ของกลางจึงถือไม่ได้ว่าเป็นทรัพย์สินที่จำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิดดังกล่าวโดยตรง จึงเป็นทรัพย์สินที่ไม่ควรริบ ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share