คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1567/2513

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

รถยนต์ของกลางเป็นของผู้ร้อง ผู้ร้องได้ให้ ต. เช่าซื้อไป และ ต.ยังชำระเงินราคาค่าเช่าซื้อให้ผู้ร้องไม่ครบ รถยนต์ของกลางจึงยังคงเป็นของผู้ร้องอยู่ ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าของที่แท้จริงมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดของจำเลย จึงมีสิทธิร้องขอให้ศาลสั่งคืนได้

ย่อยาว

คดีนี้ เนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ ให้ริบไม้และรถยนต์ดัทสันกระบะเลขทะเบียน อ.บ.01535ของกลาง ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าผู้ร้องเป็นเจ้าของรถยนต์ของกลางในคดีนี้ โดยให้นางเตือนใจเช่าซื้อ ผู้เช่าซื้อผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้อ กรรมสิทธิ์รถยนต์ยังเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องอยู่ ศาลสั่งริบรถยนต์คันนี้โดยผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดของจำเลยด้วย ขอศาลได้สั่งปล่อยรถยนต์ของกลางให้ผู้ร้อง

โจทก์แถลงคัดค้านว่ารถยนต์ของกลางเป็นของนายเฉยผู้ต้องหาขอให้ศาลสั่งยกคำร้องของผู้ร้องเสีย เพราะรถยนต์ของกลางได้มีการชำระราคาหมดแล้ว มิใช่รถยนต์ของผู้ร้อง

ในวันนัดพร้อม ผู้ร้องแถลงยอมรับว่าผู้เช่าซื้อยังค้างชำระค่าผ่อนส่งเช่าซื้อตามสัญญาเช่าซื้อท้ายคำร้องอยู่ 4 งวด และผู้ร้องรับว่ายังไม่ได้บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อ

โจทก์แถลงรับว่ารถยนต์ของกลางเดิมเป็นของผู้ร้อง ผู้ร้องได้ทำสัญญาเช่าซื้อให้ผู้เช่าซื้อไป และผู้เช่าซื้อผิดสัญญา

ศาลชั้นต้นให้งดไต่สวน และมีคำสั่งว่าผู้ร้องยังไม่ได้ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาดังกล่าวให้ยกคำร้อง

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้คืนรถยนต์ของกลางให้ผู้ร้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์รับแล้วว่ารถยนต์ของกลางเป็นของผู้ร้องผู้ร้องได้ให้นางเตือนใจเช่าซื้อไป และนางเตือนใจยังชำระเงินราคาค่าเช่าซื้อให้ผู้ร้องไม่ครบตามสัญญาเช่าซื้อ รถยนต์ของกลางจึงยังคงเป็นของผู้ให้เช่าซื้อคือผู้ร้องอยู่ ฉะนั้น ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าของที่แท้จริงมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดของจำเลย จึงมีสิทธิร้องขอให้ศาลสั่งคืนได้

พิพากษายืน

Share