คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1567/2505

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์นำสืบไม่ได้ว่า ในขณะออกเช็คไม่มีเงินของจำเลยในบัญชีธนาคารอันจะพึงให้ใช้เงินได้ หรือมีเงินในบัญชีไม่พอจะใช้เงินได้ในขณะออกเช็คตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ข้อ 2, 3 เพราะผู้ทรงเช็คเอาเช็คไปขึ้นเงินหลังวันออกเช็คและธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงินเพราะเงินของจำเลยมีไม่พอ จะฟังว่าในวันออกเช็คจำเลยไม่มีเงินในบัญชีเช่นเดียวกันยังไม่ได้
กรณีที่มีเงินพอจ่ายในวันออกเช็ค มีบัญญัติให้เป็นความผิดไว้แล้วตามมาตรา 3 ข้อ 4, 5

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยออกเช็คสั่งธนาคารจ่ายเงินแก่ผู้ถือในวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๒ วันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๐๒ ผู้ถือไปขอรับเงินธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงินเพราะเงินในบัญชีของจำเลยมีไม่พอจ่าย โดยจำเลยเจตนาไม่ให้มีการจ่ายเงินตามเช็คนั้น ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓
จำเลยให้การปฏิเสธความผิด
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์นำสืบไม่ได้ว่าในขณะออกเช็คไม่มีเงินของจำเลยในบัญชีธนาคารอันจะฟังให้ใช้เงินได้ หรือมีเงินในบัญชีไม่พอจะใช้เงินได้ในขณะออกเช็คตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓ ข้อ ๒, ๓ เพราะผู้ถือเอาเช็คไปขึ้นเงินหลังวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๐๒ ๓ วันธนาคารจึงปฏิเสธไม่จ่ายเงิน เพราะเงินของจำเลยมีไม่พอ จะฟังว่าในวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๐๒ จำเลยก็ไม่มีเงินในบัญชีเช่นเดียวกันยังไม่ได้ กรณีที่มีเงินพอจ่ายในวันออกเช็คมีบัญญัติไว้แล้วตามมาตรา ๓ ข้อ ๔, ๕ โดยเฉพาะการถอนเงินหรือห้ามธนาคารมิให้จ่ายเงินเท่านั้น การกระทำของจำเลยเท่าที่ได้ความจึงยังไม่เป็นความผิดตามกฎหมายที่โจทก์อ้าง
พิพากษายืน

Share