คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1560/2527

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์จัดการซื้อหรือขายหลักทรัพย์โดยเป็นตัวแทนและนายหน้าของลูกค้า โดยโจทก์ให้บริษัทหลักทรัพย์ที่เป็น สมาชิกตลาดหลักทรัพย์ดำเนินการแทนโจทก์หาใช่เป็นการจัด ให้มีตลาดหรือสถานที่อันเป็นศูนย์กลางการซื้อหรือขาย หลักทรัพย์หรือให้บริการที่เกี่ยวกับการจัดให้มีตลาดหรือ สถานที่ดังกล่าวตามความหมายของ พระราชบัญญัติ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พ.ศ.2517 มาตรา 3 ไม่ โจทก์ย่อมกระทำการดังกล่าวได้โดยชอบ
การที่โจทก์ให้จำเลยกู้เงินไปเพื่อซื้อหุ้นของบริษัท โจทก์เองโดยโจทก์ ยึดถือหุ้นนั้นไว้เป็นจำนำหรือเป็นประกัน เงินที่โจทก์ทดรองจ่ายซื้อหุ้น หรือโจทก์ให้จำเลยกู้เงิน จากบริษัทในเครือของบริษัทโจทก์โดยเงิน ที่กู้เป็นเงิน ของบริษัทโจทก์ให้บริษัทในเครือดังกล่าวกู้ไปให้จำเลย กู้ อีกต่อหนึ่ง ทั้งหุ้นที่จำเลยจำนำแก่บริษัทในเครือ ดังกล่าว โจทก์เป็น ผู้ยึดถือไว้เอง พฤติการณ์เช่นนี้ถือ ได้ว่าโจทก์เป็นผู้ให้จำเลยกู้ยืมเงินไปซื้อหุ้นของ บริษัทโจทก์และโจทก์รับจำนำหุ้นของตนเองเป็นประกัน เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1143 ทั้งต่อมา พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุนธุรกิจหลักทรัพย์ และ ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ.2522 มาตรา 20(3) บัญญัติห้ามมิให้บริษัทเงินทุน รับหุ้นของ บริษัทเงินทุนนั้นเองเป็นประกันหรือรับหุ้นของบริษัทเงินทุน จากบริษัทเงินทุนอื่นเป็นประกันอีกด้วย การกระทำของ โจทก์จึงตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113 ไม่มีผลบังคับ โจทก์จะอ้างเป็นมูลเรียกร้องให้ จำเลยชดใช้เงินที่โจทก์ฟ้องมิได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์และจำเลยตกลงทำสัญญากันให้โจทก์เป็นตัวแทนจำเลยสั่งซื้อหรือขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ โจทก์ซื้อหุ้นให้จำเลยตามคำสั่งของจำเลยโดยสั่งซื้อจากบริษัทนายหน้าค้าหลักทรัพย์ซึ่งเป็นสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์โดยโจทก์ทดรองจ่ายเงินแทนจำเลยในการซื้อหุ้นให้จำเลยหลายครั้ง โจทก์บอกกล่าวให้จำเลยชำระหนี้เงินทดรองดังกล่าวซึ่งค้างชำระแก่โจทก์ จำเลยไม่ชำระ จึงขอให้พิพากษาบังคับจำเลยชำระหนี้ดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ย

จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์ในเงินทดรองจ่ายบางส่วน พิพากษาให้ชำระหนี้พร้อมดอกเบี้ย

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นยกฟ้องโจทก์

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่โจทก์จัดการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ โดยเป็นตัวแทนและนายหน้าของลูกค้า หาใช่เป็นการจัดให้มีตลาดหรือสถานที่อันเป็นศูนย์กลางการซื้อหรือขายหลักทรัพย์หรือให้บริการเกี่ยวกับการจัดให้มีตลาดหรือสถานที่ดังกล่าวตามความหมายของพระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2517มาตรา 3 ไม่ โจทก์ย่อมกระทำการดังกล่าวได้โดยชอบ แต่การที่โจทก์ให้จำเลยกู้เงินไปเพื่อซื้อหุ้นของบริษัทโจทก์เองโดยโจทก์ยึดถือหุ้นนั้นไว้เป็นประกันเงินที่โจทก์ทดรองจ่ายซื้อหุ้นแทนจำเลย หรือโจทก์ให้จำเลยกู้เงินจากบริษัทในเครือของบริษัทโจทก์ โดยเงินที่กู้เป็นเงินของบริษัทโจทก์และให้บริษัทในเครือดังกล่าวกู้ไปให้จำเลยกู้อีกต่อหนึ่งทั้งหุ้นที่จำเลยนำแก่บริษัทในเครือดังกล่าวโจทก์เป็นผู้ยึดถือไว้เองพฤติการณ์เช่นนี้ถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ให้จำเลยกู้ยืมเงินไปซื้อหุ้นของบริษัทโจทก์และโจทก์รับจำนำหุ้นของตนเองเป็นประกันเงินที่ทดรองจ่ายแทนลูกค้า เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งตามประมวลกฎหมายแแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1143 ทั้งต่อมาพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจฟองซิเอร์พ.ศ. 2522 มาตรา 20(3) บัญญัติห้ามมิให้บริษัทเงินทุนรับหุ้นของบริษัทเงินทุนนั้นเองเป็นประกันหรือรับหุ้นของบริษัทเงินทุนจากบริษัทเงินทุนอื่นเป็นประกันอีกด้วยการกระทำของโจทก์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1143 จึงตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113ไม่มีผลบังคับโจทก์จะอ้างเป็นมูลเรียกร้องให้จำเลยชดใช้เงินที่โจทก์ฟ้องมิได้

พิพากษายืน

Share