แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในกรณีที่จำเลยกับผู้ตายต่างสมัครในวิวาทเข้าทำร้ายกันจนผลผู้ตายตายลง โดยจำเลยที่ 1 และผู้ตายเริ่มเข้าทำร้ายกันจำเลยที่ 1 ใช้พายและฆ้อนทำร้ายผู้ตายไม่เป็นแผลฉกรรจ์ส่วนผู้ตายมีมีดขอแล้วเข้ากอดปล้ำกันจำเลยที่ 2 เห็นจำเลยที่ 1 เสียเปรียบเข้าช่วยจำเลยที่ 1 โดยใช้ไม้คานตีและใช้มีดแทงผู้ตายถูกชายโครงขวาทลุช่องท้องเป็นแผลฉกรรจ์แพทย์ลงความเห็นว่าถึงตายเพราะแผลนี้.ข้อเท็จจริงเช่นนี้ยังไม่ได้ความว่าจำเลยที่ 1 สมคบกับจำเลยที่ 2 ในการทำร้ายผู้ตาย จำเลยที่ 1 ควรมีความผิดเพียงกรรมที่ตนทำฐานทำร้ายร่างกายตาม ม.256 เท่านั้น.
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองมีมีดและไม้เป็นอาวุธฝ่ายหนึ่ง กับผู้ตายมีมีดเป็นอาวุธอีกฝ่ายหนึ่ง ต่างสมัครใจต่อสู้ทำร้ายซึ่งกันและกันโดยผู้ตายใช้มีดฟันจำเลยที่ ๑ บาดเจ็บ จำเลยที่ ๑ ใช้ไม้ตีและจำเลยที่ ๒ ไม่ทำร้ายผู้ตายบาดเจ็บสาหัส จำเลยให้การภาคเสธว่าทำโดยป้องกันเพราะ ถูกทำร้ายก่อน
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตาม ม.๒๔๙,๒๕๔ จำคุกคนละ ๑๕ ปีตาม ม.๒๔๙ บทหนัก
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าในตอนหลังที่จะเกิดการทำร้ายกันขึ้นนี้นายเตือนร้องท้าทายนายเปรื่องจำเลยก่อน แล้วนายเปรื่องนายเตือนเข้าทำร้ายกันโดยนายเปรื่องมีไม้พายเป็นอาวุธ นายเตือนมีมีดเป็นอาวุธ แล้วเข้ากอดปล้ำกัน นายแก่นจำเลยเห็นนายเปรื่องจำเลยเสียเปรียบก็เข้าช่วยนายเปรื่องจำเลยโดยใช้ไม้คานตีและใช้มีดแทงนายเตือนทั้งแทงนางนิ่มผู้เข้าห้ามด้วย ซึ่งเป็นกรณีวิวาททำร้ายกันระหว่างจำเลยทั้งสองฝ่ายหนึ่งกับนายเตือนอีกฝ่ายหนึ่งจริงดังที่โจทก์กล่าวฟ้อง การตายของนายเตือนเนื่องจากบาดแผลที่ถูกนายแก่นจำเลยใช้มีดแทงหาใช่ตายเพราะการกระทำของนายเปรื่องจำเลยด้วยไม่ปรากฏว่านายเปรื่องจำเลยเพียงแต่ใช้ไม้พายและฆ้อนทำร้ายนายเตือนเท่านั้นไม่เป็นแผลฉกรรจ์ แพทย์ลงความเห็นว่านายเตือนตายด้วยบาดแผลที่ถูกแทงตรงชายโครงขวาทลุถึงช่องท้องถูกตับเลือดตกใน ตามคำฟ้องของโจทก์เป็นเรื่องต่างสมัครวิวาทเข้าต่อสู้ทำร้ายกันต่างคนต่างทำไม่ใช่สมคบกับทำร้าย ข้อเท็จจริงก็ไม่ได้ความว่านายเปรื่องจำเลยสมคบกับนายแก่นจำเลยในการทำร้ายนายเตือนถึงตายศาลฎีกาเห็นว่าความผิดของนายเปรื่องจำเลยเพียงฐานทำร้ายร่างกายตาม ก.ม.อาญา ม.๒๕๔ เท่านั้น พิพากษาแก้ให้จำเลยนายเปรื่องจำเลยตาม ก.ม.ดังกล่าวมีกำหนด ๑ ปี.