คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3076/2539

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญากู้เงินมีข้อความว่าจำเลยกู้ยืมเงินโจทก์ร่วมไป190,000บาทเพื่อเป็นหลักฐานในการกู้ยืมเงินจำเลยได้นำเช็คพิพาทให้โจทก์ร่วมถือไว้เป็นหลักประกันด้วยเช่นนี้มีความหมายชัดแจ้งว่าเช็คพิพาทเป็นเช็คที่จำเลยได้ออกให้แก่โจทก์ร่วมเป็นหลักประกันในการที่จำเลยกู้ยืมเงินโจทก์ร่วมไปมิใช่ออกให้เพื่อชำระหนี้แม้ตามสัญญากู้เงินจะมีข้อความว่าจำเลยจะชำระหนี้ให้แก่โจทก์ร่วมภายในวันที่ที่ลงไว้ในเช็คพิพาทก็ตามก็จะตีความว่าจำเลยออกเช็คเพื่อชำระหนี้ไม่ได้จำเลยจึงไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ.2534มาตรา4

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยออกเช็คธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัดสาขานครศรีธรรมราช 2 ฉบับ ฉบับแรก ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2536จำนวนเงิน 100,000 บาท ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2536จำนวนเงิน 90,000 บาท ให้แก่นายบัญชา คำนวณศิลป์ผู้เสียหาย เพื่อชำระหนี้เงินกู้ยืม ซึ่งมีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย เมื่อเช็คทั้งสองฉบับถึงกำหนด ผู้เสียหายนำไปเรียกเก็บเงินปรากฏว่าธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534มาตรา 4 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
จำเลย ให้การ ปฏิเสธ
ระหว่างพิจารณา นายบัญชา คำนวณศิลป์ ผู้เสียหาย ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ร่วมอุทธรณ์ โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
โจทก์ร่วมฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่โจทก์ร่วมฎีกาว่า จำเลยกระทำความผิดตามฟ้องนั้น ปรากฏตามสัญญากู้เงินเอกสารหมาย จ.8 ว่าจำเลยได้กู้ยืมเงินโจทก์ร่วมไปจำนวน 190,000 บาท และมีข้อความระบุไว้ในข้อ 2 ว่า เพื่อเป็นหลักฐานในการกู้ยืมเงิน ข้าพเจ้าได้นำเช็คธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด สาขานครศรีธรรมราชเลขที่ 0090981 ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2536 จำนวนเงิน100,000 บาท และเช็คเลขที่ 0090982 ลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2536จำนวนเงิน 90,000 บาท ให้ท่านถือไว้เป็นประกันด้วย ข้อความที่ระบุไว้ดังกล่าวย่อมมีความหมายชัดแจ้งว่าเช็คทั้ง 2 ฉบับ ซึ่งก็คือเช็คเอกสารหมาย จ.1 และ จ.2 เป็นเช็คที่จำเลยได้ออกให้แก่โจทก์ร่วมเป็นหลักประกันในการที่จำเลยกู้ยืมเงินโจทก์ร่วมไปมิใช่เช็คที่จำเลยออกให้แก่โจทก์ร่วมเพื่อชำระหนี้ แม้ตามสัญญากู้เงินเอกสารหมาย จ.8 ข้อ 3 จะมีข้อความว่า จำเลยจะชำระหนี้ให้แก่โจทก์ร่วมภายในวันที่ 18 มิถุนายน 2536และวันที่ 2 กรกฎาคม 2536 ซึ่งเป็นวันที่ลงไว้ในเช็คเอกสารหมาย จ.1และ จ.2 ก็ตาม ตีความว่าจำเลยออกเช็คเพื่อชำระหนี้น่าจะไม่ได้ เพราะมีความหมายเพียงว่าจำเลยจะนำเงินมาชำระให้แก่โจทก์ร่วมภายในวันที่ที่ระบุไว้เท่านั้น เมื่อฟังว่าจำเลยออกเช็คเอกสารหมาย จ.1 และ จ.2 เพื่อเป็นหลักประกันการชำระหนี้มิได้ออกเพื่อชำระหนี้ จำเลยย่อมไม่มีความผิดตามฟ้อง
พิพากษายืน

Share