แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในคดีอาญา เมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จแล้วได้นัดสืบพยานจำเลย ครั้นถึงวันนัดทนายโจทก์ขอเลื่อนอ้างว่าป่วยมีใบรับรองแพทย์มาด้วย จำเลยไม่คัดค้านศาลอนุญาตให้เลื่อนไป ครั้นถึงวันนัด ทนายโจทก์อ้างลอย ๆ ว่าป่วยอีก โดยไม่มีหลักฐานอันใดกำกับมาและขอเลื่อนในวันนัดนั้นเอง เมื่อพยานจำเลยก็มาศาลพร้อมที่จะสื่อ และจำเลยก็คัดค้านการขอเลื่อนดังนี้ ที่ศาลไม่อนุญาตให้เลื่อนจึงชอบด้วยเหตุผล และไม่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายแต่ประการใด
การสั่งให้เจ้าพนักงานพร้อมด้วยแพทย์ไปตรวจคู่ความหรือบุคคลที่อ้างว่าป่วยนั้น ไม่ใช่เป็นหน้าที่ของศาลที่จะสั่งไปเองโดยไม่มีคู่ความฝ่ายใดขอร้อง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองสมคบกันฉ้อโกง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๔๑, ๘๓ ศาลแขวงพระนครเหนือไต่สวนมูลฟ้องแล้วสั่งประทับฟ้องเฉพาะจำเลยที่ ๑
จำเลยที่ ๑ ปฏิเสธว่า ไม่ได้กระทำผิดดังฟ้อง กับตัดฟ้องว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ
ศาลแขวงพระนครเหนือพิจารณาสืบพยานโจทก์แล้ว ครั้นถึงวันนัดสืบพยานจำเลยนัดหลังฝ่ายโจทก์ไม่มาศาล โดยทนายโจทก์ยื่นคำร้องอ้างว่าป่วยจำเลยคัดค้านวาประวิงความ ศาลชั้นต้นเห็นไม่สมควรให้เลื่อน จึงสืบพยานจำเลยไปจนเสร็จในวันนั้น แล้วสั่งนัดฟังคำพิพากษา ก่อนวันพิพากษา ทนายโจทก์ยื่นคำแถลงว่าคำสั่งศาลที่ให้ยกคำร้องขอเลื่อนคดีนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอแถลงคัดค้านไว้ ศาลสั่งรวมสำนวนแล้ววินิจฉัยว่าข้อเท็จจริง ฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้หลอกลวงฉ้อโกงโจทก์ ทั้งคดีโจทก์ขาดอายุความ เพราะไม่ร้องทุกข์ภายใน ๓ เดือน พิพากษายกฟ้อง โดยไม่วินิจฉัยพยานจำเลย
โจทก์อุทธรณ์ว่าศาลไม่ให้โจทก์เลื่อนคดี ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้สืบพยานจำเลยแล้วพิพากษาใหม่
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาต่อมา
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วปรากฎว่า ภายหลังสืบพยานโจทก์แล้ว ศาลนัดสืบพยานจำเลยครั้งแรกวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๐๓ ครั้นถึงวันนัด ทนายโจทก์ขอเลื่อนอ้างว่าเป็นไข้หวัดมาหลายวันยังไม่หาย โดยมีใบรับรองของแพทย์รับรองว่าควรหยุดรักษาตัว ๕ วัน ศาลสอบจำเลยแล้วไม่คัดค้าน จึงให้เลื่อนคดีไป ๑ ธันวาคม ๒๕๐๓ ครั้นถึงวันนัด ทนายโจทก์ขอเลื่อนอ้างว่าเป็นไข้หวัดมาหลายวันแล้ว จำเลยคัดค้านว่าขอเลื่อนเพื่อประวิงคดีจึงเห็นว่าในการขอเลื่อนคดีของทนายโจทก์ครั้งแรกของการสืบพยานจำเลยนั้น นอกจากคำร้องแล้วทนายโจทก์ยังมีใบรับรองของแพทย์ประกอบระบุว่าทนายโจทก์ป่วยเป็นโรคไข้หวัด ควรหยุดรักษาตัว ๕ วัน แต่ในนัดหลังมีแต่คำร้องของทนายโจทก์อ้างว่าป่วยหามีใบรับรองแพทย์ด้วยไม่ ทั้งระยะนั้นก็ล่วงเลยกำหนด ๕ วันที่แพทย์ให้ทนายโจทก์หยุดรักษาตัวแล้วด้วย ทั้งฝ่ายจำเลยก็คัดค้านที่ศาลชั้นต้นเห็นไม่สมควรให้เลื่อนจึงมีเหตุผลอยู่ หาเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายอย่างใดไม่ ที่ทนายโจทก์ฎีกาว่า ถ้าศาลเห็นว่าทนายโจทก์ไม่ป่วยจริง ก็ควรสั่งให้เจ้าพนักงานศาลพร้อมด้วยแพทย์ไปตรวจก่อนจะสั่งอนุญาตให้เลื่อนคดีหรือไม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๔๑ นั้น
ก็เห็นว่าตามมาตรานี้ต้องให้คู่ความฝ่ายใดขอต่อศาลให้ปฏิบัติการเช่นนั้นขึ้นก่อนศาลจึงจะพิจารณาสั่งได้ ไม่ใช่เป็นหน้าที่ของศาลที่จะสั่งไปเองโดยไม่มีคู่ความฝ่ายใดขอร้อง ตามพฤติการณ์ดังกล่าวมา ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อทนายโจทก์อ้างลอย ๆ ว่าป่วย โดยไม่มีหลักฐานอันใดกำกับมา และขอเลื่อนในวันนัดนั้นเอง เมื่อพยานจำเลยก็มาศาลพร้อมที่จะเสียแล้วเช่นนี้ ที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนจึงชอบแล้ว
พิพากษายืน