แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ร่วมฎีกา ศาลอาญาสั่งว่า ฎีกาของโจทก์ร่วมเป็นฎีกาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 220 จึงไม่รับ
โจทก์ร่วมเห็นว่า ฎีกาโจทก์ร่วมเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับการรับฟังพยานตามกฎหมายลักษณะพยาน โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ร่วมไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 264,265,268,341,342,80,83,91 ฯลฯ
ระหว่างพิจารณาผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ร่วมฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 133)
โจทก์ร่วมจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 135)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ฎีกาของโจทก์ร่วมที่ว่า คำรับสารภาพของจำเลยต่อคณะกรรมการสอบสวนของโจทก์ร่วม ตลอดจนเหตุพิรุธของจำเลยและพยานแวดล้อมของโจทก์ร่วม รับฟังมาลงโทษจำเลยได้ ล้วนเป็นฎีกาในเรื่องดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐาน จึงเป็นฎีกาโต้เถียงข้อเท็จจริงทั้งสิ้น ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ร่วมชอบแล้วยกคำร้อง