คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15525/2557

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฎีกาว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 3 ควรรับฟังพยานหลักฐานเช่นเดียวกับศาลชั้นต้นเป็นฎีกาทำนองว่าคำพิพากษาศาลชั้นต้นชอบแล้ว แต่ฎีกาของโจทก์มิได้โต้แย้งว่าคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ไม่ถูกต้องหรือไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างไร และโจทก์ไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 เพราะเหตุใด จึงเป็นฎีกาที่มิได้คัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ไม่ชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 216 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสิบเอ็ดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 341, 352, 353, 354
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่า คดีมีมูลเฉพาะข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 352 วรรคแรก, 353 ส่วนข้อหาอื่นให้ยกฟ้อง
จำเลยทั้งสิบเอ็ดให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353 จำคุก 3 ปี ส่วนข้อหาฉ้อโกงให้ยก และยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 ถึงที่ 11
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353 ด้วย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เห็นสมควรวินิจฉัยก่อนว่าฎีกาของโจทก์ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า คดีนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 3 วินิจฉัยว่าทางนำสืบของโจทก์ไม่ได้ความว่าจำเลยที่ 1 ทำสัญญาซื้อขายเครื่องชั่งอิเล็กทรอนิกส์และสัญญาประนีประนอมยอมความกับห้างหุ้นส่วนจำกัด ราชสีมา ง่วนฮงหลี เครื่องชั่งตลอดจนยกทรัพย์สินของโจทก์ตีชำระหนี้ตามคำพิพากษาตามยอมแก่ห้างดังกล่าวเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ที่มิชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ประกอบกับได้ความจากพยานจำเลยที่ 1 ว่า การยกทรัพย์สินของโจทก์ตีชำระหนี้ถือเอาราคาประเมินของเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นเกณฑ์ ซึ่งเป็นการประเมินแบบอสังหาริมทรัพย์ต้องมีค่ารื้อถอนและค่าซ่อมแซมอุปกรณ์ที่ส่วนใหญ่ใช้งานไม่ได้ ทั้งจำเลยที่ 1 ยังขอเวลาห้างหุ้นส่วนจำกัด ราชสีมา ง่วนฮงหลี เครื่องชั่ง ให้ชะลอการขนย้ายทรัพย์สินออกไป 2 เดือน เพื่อจำเลยที่ 1 จะขอความช่วยเหลือทางด้านการเงินจากสหกรณ์จังหวัดสุรินทร์อันเป็นการขวนขวายหาเงินมาชำระหนี้เพื่อไม่ให้ทรัพย์สินของโจทก์ถูกบังคับชำระหนี้อันเป็นข้อบ่งชี้ว่าจำเลยที่ 1 ไม่มีเจตนาทุจริตในการจัดการทรัพย์สินของโจทก์ ฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353 โจทก์ฎีกาว่าศาลอุทธรณ์ (ที่ถูก ศาลอุทธรณ์ภาค 3) ควรรับฟังพยานหลักฐานเช่นเดียวกับศาลชั้นต้นว่าจำเลยที่ 1 ครอบครองและได้รับมอบหมายให้จัดการทรัพย์สินของโจทก์ แล้วเบียดบังทรัพย์สินนั้นไปให้แก่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ราชสีมา ง่วนฮงหลี เครื่องชั่ง โดยทุจริต เป็นฎีกาในทำนองว่าคำพิพากษาศาลชั้นต้นชอบแล้ว แต่ฎีกาของโจทก์มิได้โต้แย้งว่าคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ไม่ถูกต้องหรือไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างไร และโจทก์ไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 เพราะเหตุใด จึงเป็นฎีกาที่มิได้คัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 216 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายกฎีกาของโจทก์

Share