คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1552/2546

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แผ่นซีดีรอมใดจะเป็นวัสดุโทรทัศน์ตามมาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ. ควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ.2530 หรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงว่า สิ่งที่บันทึกหรืออัดลงในวัสดุดังกล่าวว่ามีผลทำให้แผ่นซีดีรอมนั้นสามารถจัดถ่ายทอดออกเป็นภาพหรือเสียง หรือทั้งภาพและเสียงได้ในลักษณะต่อเนื่องกันไปโดยอุปกรณ์อื่นซึ่งเป็นลักษณะของวัสดุโทรทัศน์ตามความหมายในวรรคสองของคำว่า เทปหรือวัสดุโทรทัศน์ แห่งบทกฎหมายดังกล่าว คดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องยืนยันข้อเท็จจริงว่า แผ่นซีดีรอมที่บันทึกโปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ เป็นวัสดุโทรทัศน์ เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพ จึงย่อมฟังข้อเท็จจริงได้ว่า แผ่นซีดีรอมที่บันทึกโปรแกรมคอมพิวเตอร์ตามคำฟ้องมีสภาพเป็นวัสดุโทรทัศน์ จำเลยจึงมีความผิดตามฟ้อง
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 13/2543)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 4, 6, 8, 15, 30, 31, 61, 70, 75 และ 76 พระราชบัญญัติควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ.2530 มาตรา 4, 6 และ 34 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33, 91 และ 287 ริบของกลางทั้งหมดโดยให้แผ่นซีดีรอมของกลางที่ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์จำนวน 133 แผ่น ตกเป็นของเจ้าของลิขสิทธิ์ และสั่งจ่ายเงินค่าปรับฐานละเมิดลิขสิทธิ์กึ่งหนึ่งให้แก่ผู้เสียหายทั้งสี่ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ด้วย
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 31 และ 70 วรรคสอง พระราชบัญญัติควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ.2530 มาตรา 6 วรรคหนึ่ง และ 34 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นเพื่อการค้า จำคุก 1 ปี 6 เดือน และปรับ 350,000 บาท ความผิดฐานประกอบกิจการให้เช่าหรือจำหน่ายเทปหรือวัสดุโทรทัศน์โดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับ 15,000 บาท และความผิดฐานจำหน่าย เสนอจำหน่ายภาพยนตร์วิดีโอซีดีลามก จำคุก 6 เดือน และปรับ 6,000 บาท รวมจำคุก 2 ปี และปรับ 371,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 ปี และปรับ 185,500 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับ ให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29 และ 30 ของกลางให้ตกเป็นของเจ้าของลิขสิทธิ์ ส่วนสิ่งที่ได้ใช้ในการกระทำความผิดให้ริบ และให้จ่ายค่าปรับที่ได้ชำระตามคำพิพากษาสำหรับความผิดฐานขาย เสนอขายงานที่ได้ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์เพื่อการค้าจำนวนกึ่งหนึ่งของค่าปรับ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 76 แก่ผู้เสียหายทั้งสี่ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า สำหรับปัญหาเบื้องต้นว่า ซีดีรอมบันทึกโปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ที่จำเลยนำมาเป็นวัตถุในการประกอบกิจการให้เช่า แลกเปลี่ยนหรือจำหน่าย เป็นวัสดุโทรทัศน์อันมีผลให้การกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ.2530 ตามคำฟ้องหรือไม่ ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศโดยมติที่ประชุมใหญ่ เห็นว่า แผ่นซีดีรอมซึ่งเป็นแผ่นซีดีประเภทหนึ่งเป็นวัตถุที่สามารถนำมาใช้ทำเป็นวัสดุโทรทัศน์ได้ตามความหมายใน (2) ของคำว่า เทปหรือวัสดุโทรทัศน์ใน มาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว แต่ซีดีรอมแผ่นใดจะมีลักษณะครบถ้วนที่จะถือว่าเป็นวัสดุโทรทัศน์ตามกฎหมายดังกล่าวหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงว่า สิ่งที่บันทึกหรืออัดลงในวัสดุดังกล่าวว่าจะมีผลทำให้แผ่นซีดีรอมนั้นสามารถจัดถ่ายทอดออกเป็นภาพหรือเสียง หรือทั้งภาพและเสียงได้ในลักษณะต่อเนื่องกันไปโดยอุปกรณ์อื่น ซึ่งเป็นลักษณะของวัสดุโทรทัศน์ตามความหมายในวรรคสองของคำว่า เทปหรือวัสดุโทรทัศน์แห่งบทกฎหมายดังกล่าวได้หรือไม่ ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ต้องพิจารณาจากสิ่งที่บันทึกหรืออัดลงไปในแผ่นซีดีรอมแต่ละแผ่น เมื่อคดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องยืนยันข้อเท็จจริงว่า แผ่นซีดีรอมที่บันทึกโปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ เป็นวัสดุโทรทัศน์ และปรากฏว่าจำเลยให้การรับสารภาพ จึงย่อมฟังข้อเท็จจริงได้ว่า แผ่นซีดีรอมที่บันทึกโปรแกรมคอมพิวเตอร์ตามคำฟ้องนี้มีสภาพเป็นวัสดุโทรทัศน์ การกระทำของจำเลยดังกล่าวมาข้างต้นจึงเป็นความผิดตามคำฟ้อง ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางกำหนดโทษมาเหมาะสมแก่รูปคดีแล้ว ไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไข อุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้นบางส่วน
อนึ่ง ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำพิพากษาเกี่ยวกับของกลางว่า ของกลางให้ตกเป็นของเจ้าของลิขสิทธิ์ ส่วนสิ่งที่ได้ใช้ในการกระทำความผิดให้ริบนั้น ไม่ชัดเจนว่าของกลางใดที่ให้ตกเป็นของเจ้าของลิขสิทธิ์ ส่วนแผ่นซีดีภาพยนตร์ลามกเป็นทรัพย์สินที่จำเลยมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดอันควรริบ ไม่ใช่สิ่งที่ใช้ในการกระทำความผิดแต่อย่างใด จึงสมควรแก้ไขให้ถูกต้องด้วย
พิพากษาแก้เป็นว่า เฉพาะโทษปรับในความผิดตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 70 วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 31 (1) ปรับ 150,000 บาท ความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ.2530 มาตรา 34 ประกอบมาตรา 6 วรรคหนึ่ง ปรับ 10,000 บาท รวมปรับ 160,000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงปรับ 80,000 บาท รวมโทษทุกกรรมแล้ว จำคุก 1 ปี และปรับ 83,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ของกลางแผ่นซีดีรอมที่ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ 133 แผ่น ให้ตกเป็นของผู้เสียหายที่ 1 ถึงที่ 4 ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 75 ส่วนซีดีภาพยนตร์ลามก 56 แผ่น อันเป็นทรัพย์สินที่จำเลยมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 (1) นั้นให้ริบ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง.

Share