คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1548/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความในพินัยกรรมข้อหนึ่งกล่าวว่า ผู้ตายเจตนายกทรัพย์ให้ผู้มีชื่อตั้งแต่วันทำพินัยกรรมฉะบับนี้มีข้อความเริ่มต้นระบุไว้ชัดว่าขอทำหนังสือพินัยกรรมเป็นคำสั่งเผื่อตายไว้ และตอนท้ายก็ยังกล่าวยืนยันว่าผู้ตายได้ทำพินัยกรรมไว้ด้วยความเต็มใจและมีสติดีมีพยานลงชื่ออย่างพินัยกรรม ทุกประการเช่นนี้ย่อมถือว่าเป็นพินัยกรรมที่ผู้ตายมุ่งหมายจะยกทรัพย์ให้เมื่อผู้ตายตายลง หาใช่เป็นหนังสือยกทรัพย์ให้ดดยเสน่หาไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่าทรัพย์พิพาทเป็นสิทธิของโจทก์ตามพินัยกรรม และให้เพิกถอนนิติกรรมระหว่างจำเลยทั้งสองเสีย กับห้ามจำเลยไม่ให้เกี่ยวข้องกับทรัพย์รายพิพาท
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีเต็มตามฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาคงฟังข้อเท็จจริงว่า ผู้ตายได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์พิพาทให้โจทก์จริง ส่วนที่จำเลยเถียงว่าเป็นสัญญายกให้นั้นพินัยกรรมพิพาทมีข้อความเริ่มต้นระบุไว้ชัดว่า ขอทำหนังสือพินัยกรรมเป็นคำสั่งเผื่อตายไว้และตอนท้ายก็ยังกล่าวยืนยันว่าผู้ตายได้ทำพินัยกรรมไว้ด้วยความเต็มใจ และมีสติดี แต่เจ็บตามองไม่เห็นจึงพิมพ์นิ้วแม่มือขวาไว้แทนชื่อ ผู้ตายกดพิมพ์ลายนิ้วมือไว้ ๒ แห่ง และมีพยานกับผู้เขียนพินัยกรรม์ลงลายมือชื่อรวม ๕ คน ได้ลงลายมือชื่อคนละ ๒ แห่งเช่นเดียวกัน
ในข้อ ๒ มีความว่า “…..ข้าพเจ้าได้แสดงเจตนายกให้แก่นางเชือบ มีคลังต่อหน้าพยานเสร็จแล้วหนึ่งแปลง เรียกชื่อว่านามน รวมสิบบิ้ง เป็นนาเล็กบ้างใหญ่บ้าง และที่บ้านกับเรือนและของใช้ทุกอย่างซึ่งเป็นของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเจตนายกให้ตั้งแต่วันทำพินัยกรรม์”
แม้จะมีข้อความว่า ยกให้โจทก์ตั้งแต่วันทำพินัยกรรม์ก็ดี เห็นว่าการแปลความหมายของเอกสารจะต้องพิจารณาตลอดทั้งฉะบับ เมื่อได้พิจารณาพินัยกรรมฉะบับนี้แล้ว เห็นว่าเป็นพินัยกรรมที่ผู้ตายมุ่งหมายจะยกทรัพย์ให้เมื่อผู้ตายตาย หาใช่เป็นหนังสือยกทรัพย์ให้ดดยเสน่หาดังข้อฎีกาของจำเลยไม่
จึงพิพากษายืน

Share