แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การตักเตือนเป็นหนังสือตามกฎหมายเป็นอำนาจของนายจ้าง การที่หัวหน้าแผนกของนายจ้างออกใบเตือนแก่ลูกจ้างโดยไม่ปรากฏว่าผู้มีอำนาจว่าจ้างหรือเลิกจ้างของนายจ้างมอบหมายอำนาจในการออกใบเตือนให้ จะถือว่าหัวหน้าแผนกเป็นตัวแทนของนายจ้างในการออกใบเตือนด้วยหาได้ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เลิกจ้างนายณรงค์ลูกจ้างของโจทก์ เนื่องจากไม่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ทำงานในหน้าที่อย่างถ่วงเวลา ได้ผลงานน้อยเป็นประจำตักเตือนแล้วก็ไม่แก้ไขปรับปรุง เขียนใบลาป่วยอันเป็นเท็จ นายณรงค์ร้องต่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ว่าการเลิกจ้างเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์มีคำวินิจฉัยว่า การเลิกจ้างของโจทก์เป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรม สั่งให้โจทก์รับนายณรงค์กลับเข้าทำงานในตำแหน่งและอัตราค่าจ้างที่ไม่ต่ำกว่าเดิม โจทก์เห็นว่าคำสั่งนี้ไม่ถูกต้องขอให้เพิกถอนคำสั่งคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์
จำเลยให้การว่า คำสั่งของจำเลยถูกต้องและเป็นธรรมแล้ว นายณรงค์เป็นลูกจ้างประจำ การลากิจลาป่วยย่อมได้รับค่าจ้าง แม้จะไม่ได้ป่วยจริงตามใบลาแต่ได้หยุดงานไปทำธุระก็ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ ที่โจทก์อ้างว่านายณรงค์มาทำงานสายบ่อยไม่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้ว่ากล่าวตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร โจทก์เลิกจ้างนายณรงค์เป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรม ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์
ผู้พิพากษาสมทบนายหนึ่งมีความเห็นแย้งว่าควรพิพากษายกฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า การลาของนายณรงค์เป็นการลาที่ผิดระเบียบไม่เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ตามที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัย การลาผิดระเบียบไม่เป็นการร้ายแรงถึงขนาดที่นายจ้างจะถือเป็นเหตุเลิกจ้าง ส่วนการตักเตือนเป็นหนังสือหรือไม่ ศาลแรงงานกลางยังไม่ได้วินิจฉัย พิพากษายกคำพิพากษาศาลแรงงานกลางให้ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยข้อเท็จจริงที่ว่าโจทก์ได้ว่ากล่าวตักเตือนเป็นหนังสือในกรณีที่อ้างว่านายณรงค์ไม่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถและทำงานในหน้าที่อย่างถ่วงเวลา ได้ผลงานน้อยเป็นประจำแล้วหรือไม่
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า นายณรงค์ไม่เคยได้รับการว่ากล่าวตักเตือนเป็นหนังสือจากนายจ้าง และได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 123 แห่งพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ฯ นายจ้างไม่มีสิทธิเลิกจ้าง พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติตามคำพิพากษาศาลแรงงานกลางว่า นายชม หัวหน้าแผนกช่างซ่อมบำรุงของโจทก์ ได้ออกใบเตือนเป็นหนังสือให้นายณรงค์ทราบ เนื่องจากนายณรงค์มาทำงานสายและไม่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ใบเตือนดังกล่าวเป็นการเตือนของนายชมในฐานะหัวหน้าแผนกช่างซ่อมบำรุง และผู้บังคับบัญชาของนายณรงค์ ไม่ปรากฏว่าผู้มีอำนาจว่าจ้างหรือเลิกจ้างในบริษัทโจทก์มอบหมายอำนาจในการออกใบเตือนให้แก่นายชมไว้เป็นพิเศษ ใบเตือนของนายชมจึงไม่เป็นใบเตือนของโจทก์โจทก์อุทธรณ์ว่า นายชมเป็นตัวแทนของโจทก์ ใบเตือนของนายชมถือว่าเป็นใบเตือนของโจทก์ เห็นว่า อำนาจในการตักเตือนเป็นหนังสือตามกฎหมายเป็นอำนาจของนายจ้างการที่นายชมออกใบเตือนดังกล่าวจะถือว่าเป็นตัวแทนของโจทก์ในการออกใบเตือนด้วยหาได้ไม่
พิพากษายืน