คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3501/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 364 นั้น จะต้องกระทำต่อเคหสถานอาคารเก็บรักษาทรัพย์หรือสำนักงานในความครอบครองของผู้ยื่น จำเลยอยู่ในบ้านและที่ดินพิพาทโดยได้รับมอบหมายจากมารดาโจทก์ให้ดูแล แทนตั้งแต่ยังเป็นกรรมสิทธิ์ของมารดาโจทก์ แม้ต่อมาโจทก์จะได้รับโอนกรรมสิทธิ์จากมารดา โจทก์ก็มิได้เข้าครอบครองคงมอบให้จำเลยดูแลต่อมา การที่จำเลยไม่ยอมออกไปจากบ้านและที่ดินพิพาทที่จำเลยครอบครองอยู่ไม่เป็นความผิดตาม มาตรา 364

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เดิมโจทก์อนุญาตให้จำเลยเข้าอยู่ในบ้านและที่ดินพิพาทเพื่อดูแลรักษาแทนโจทก์ชั่วคราว ต่อมาโจทก์ได้แจ้งให้จำเลยออกไปจากบ้านดังกล่าว แต่จำเลยไม่ยอมออกไปจากเคหสถานของโจทก์ ซึ่งโจทก์เป็นผู้มีสิทธิที่จะห้ามมิให้เข้าไปได้ ไล่ให้ออกแล้ว โดยไม่มีเหตุสมควร ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖๔
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖๔ นั้นจะต้องกระทำต่อเคหสถานอาคารเก็บรักษาทรัพย์หรือสำนักงานในความครอบครองของผู้อื่น คดีนี้จำเลยอยู่ในบ้านและที่ดินพิพาทมาตั้งแต่ครั้งยังเป็นกรรมสิทธิ์ของมารดาโจทก์โดยไม่รับมอบหมายจากมารดาโจทก์ให้ดูแลแทน แม้ต่อมาโจทก์จะได้รับโอนกรรมสิทธิ์จากมารดา โจทก์ก็มิได้เข้าครอบครองคงมอบให้จำเลยดูแลต่อมา ดังนั้น การที่จำเลยไม่ยอมออกไปจากบ้านและที่ดินพิพาทที่จำเลยครอบครองอยู่ ย่อมไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖๔
พิพากษายืน

Share