แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เกี่ยวกับที่ดินแปลงเดียวกันทุกคดี
คดีแรกถึงที่สุดเพียงศาลชั้นต้น ซึ่งพิพากษาให้แบ่งที่ดินเฉพาะส่วนที่โจทก์จะได้รับตามพินัยกรรมข้อ 1. เพราะโจทก์ขอรับเพียงส่วนตามพินัยกรรมเท่านั้น
คดีที่ 2 ถึงที่สุดชั้นศาลอุทธรณ์ โดยให้ยกคำชี้ขาดของศาลชั้นต้นที่ชี้ขาดไว้ว่า โจทก์จำเลยปกครองที่พิพาทร่วมกัน
โจทก์จึงมาฟ้องขอแบ่งที่ดินซึ่งเป็นกองกลางตามพินัยกรรมข้อ 3. เช่นนี้ การฟ้องคดีใหม่นี้ ไม่เป็นการฟ้องซ้ำกับคดีแรกและคดีที่ 2.
ย่อยาว
เรื่อง ขอให้แสดงกรรมสิทธิ์ และขอแบ่งแยกที่ดิน
ได้ความว่า เดิมตามคดีแดง ๖๘/๒๔๙๓ (นางชื้น ศิริไพบูลย์ โจทก์ นางลำดวน สว่างเนตร์ จำเลย) ศาลชั้นต้นพิพากษาให้แบ่งที่ดินเฉพาะส่วนที่โจทก์จะได้รับตามพินัยกรรมข้อ ๑. เท่านั้น เพราะโจทก์แถลงขอรับเพียงส่วนตามพินัยกรรมเท่านั้น ศาลยังมิได้พิพากษาเกี่ยวกับที่ดินซึ่งเป็นกองกลางตามพินัยกรรมข้อ ๓. คดีแดง ๖๘/๒๔๙๓ นี้ ถึงที่สุดเพียงศาลชั้นต้น
ต่อมาตามคดีแดงที่ ๒๗/๒๔๙๖ (นางชื้น ศิริไพบูลย์ โจทก์ นางลำดวน สว่างเนตร์ จำเลย คู่ความเดียวกัน) โจทก์ฟ้องขอแบ่งที่ดินซึ่งเป็นกองกลางตามพินัยกรรมข้อ ๓. คดีนี้ศาลชั้นต้นเห็นว่าเป็นการฟ้องซ้ำกับคดีแดง ๖๘/๒๔๙๓ และเห็นต่อไปว่า โจทก์จำเลยปกครองที่พิพาทร่วมกัน อายุความที่จำเลยให้การตัดฟ้องก็ไม่ขาดอายุความ แต่โจทก์ฟ้องซ้ำกับฟ้องเอาส่วนของนางติมคนนอกคดีด้วย ฟ้องโจทก์จึงฟังไม่ได้ พิพากษาให้ยกฟ้อง จำเลยอุทธรณ์คัดค้านเฉพาะคำชี้ขาดที่ว่าปกครองร่วมกัน โดยจำเลยถือว่า มิได้ปกครองร่วมกัน แต่แยกปกครองเป็นส่วนสัด ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกอุทธรณ์ของจำเลย และให้ยกคำชี้ขาดของศาลชั้นต้นที่ชี้ขาดไว้ว่าโจทก์จำเลยปกครองร่วมกันนั้นด้วย คดีแดง ๒๗/๒๔๙๖ นี้ ถึงที่สุดเพียงชั้นศาลอุทธรณ์
โจทก์-จึงมาฟ้องคดีใหม่นี้ ขอแบ่งที่ดินที่เหลือจากแบ่งตามพินัยกรรม
จำเลยทั้งสองต่อสู้ว่าเป็นฟ้องซ้ำ และจำเลยที่ ๒ ว่าขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นว่าเป็นฟ้องซ้ำตาม ป.วิ.แพ่ง มาตรา ๑๔๘ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการที่โจทก์ฟ้องคดีใหม่นี้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ จึงพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ดำเนินการพิจารณาในประเด็นที่โต้เถียงกัน แล้วพิพากษาใหม่
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าคดีแดง ๒๗/๒๔๙๖ ซึ่งมีคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นที่สุดนั้น ศาลอุทธรณ์ยังไม่ได้วินิจฉัยชี้ขาดตามประเด็นที่โจทก์ฟ้องจำเลยในคดีที่กล่าว โจทก์จึงได้ดำเนินการฟ้องจำเลยทั้งสองในคดีนี้ใหม่ตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ จึงมิใช่ฟ้องซ้ำกับคดีแดง ๒๗/๒๔๙๖ ประการหนึ่ง
อีกประการหนึ่ง จะว่าโจทก์ฟ้องซ้ำกับคดีแดง ๖๘/๒๔๙๓ ก็ไม่ถนัด เพราะคดีแดง ๖๘/๒๔๙๓ ศาลยังมิได้พิพากษาตามพินัยกรรมข้อ ๓. ซึ่งเป็นเรื่องการขอแบ่งที่ดินซึ่งเป็นกองกลาง
จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์.