คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1540/2482

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีกะสุนปืนย่อมแสดงความมุ่งหมายว่าเป็นกะสุนที่ใช้ยิงได้ เมื่อปรากฎว่าเป็นกะสุนด้านก็ต้องยกฟ้อง แม้จะถือว่ากะสุนด้านเป็นเครื่องกะสุน+ตามความหมายใน ม.4 ตอน 2 แต่โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีกะสุนปืน มิได้ฟ้องว่ามีเครื่องกะสุนปืนแล้ว ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีกะสุนปืน ๒ นัดไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ๒๔๗๗ ม.๑๑,๕๒ แต่ปรากฎว่ากะสุนปืนนั้นด้านยิงไม่ออก และโจทก์ไม่สืบพะยาน
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า กฎหมายประสงค์ลงโทษผู้มีกะสุนปืนชะนิดที่ใช้เป็นประโยชน์ในการยิงได้ คดีนี้จึงไม่เรียกว่าจำเลยมีกะสุนตามความหมายแห่ง พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ จึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าบทวิเคราะห์ศัพท์ในมาตรา ๔ ตอน ๒ กินความถึงชะนวนหรือปลอก หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของเครื่องกะสุนปืนด้วย จึงพิพากษาลงโทษจำเลย
แต่มีผู้พิพากษานานหนึ่งทำความเห็นแย้งว่าเป็นกะสุนปืนที่ยิงไม่ได้แล้ว จำเลยจึงไม่มีความผิด
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีกะสุนปืน การฟ้องเช่นนี้ย่อมแสดงความมุ่งหมายว่าเป็นกะสุนปืนที่ใช้ยิงได้ แต่กลับปรากฎว่าเป็นกะสุนด้านใช้ยิงไม่ได้ เป็นอันฟังข้อเท็จจริงไม่ได้ตามฟ้อง ส่วนวิเคราะห์ศัพท์ตามพ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ม.๔ ตอน ๒ ก็เป็นวิเคราะห์ศัพท์ว่าด้วย เครื่องกะสุนปืนซึ่งโจทก์มิได้ฟ้องกล่าวหา แม้จะถือว่ากะสุนปืนด้านเป็นเครื่องกะสุนปืน ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้จึงพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ยกฟ้องโจทก์

Share