แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การฎีกาโต้แย้งคำสั่งของศาลที่สั่งก่อนมีคำพิพากษาหรือคำชี้ขาดตัดสินคดีนั้น จะต้องได้โต้แย้งคำสั่งนั้นไว้แล้ว จึงจะฎีกาได้ตาม ม.226 ป.ม.วิ.แพ่ง
ตาม ม.1656 ป.ม.แพ่งฯ ไม่จำเป็นต้องถามผู้อาพาธ 3 ครั้ง 3 หน พินัยกรรม์จึงจะสมบูรณ์.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า นางแหร่มมีนาและสวน นางแหร่มตาย โจทก์เป็นทายาทโดยชอบธรรม ขอให้ศาลแสดงว่านาและสวนตกทอดเป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยไม่ให้เกี่ยวข้อง จำเลยให้การว่านางแหร่มทำพินัยกรรมยกที่นาและสวนให้จำเลย ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกา.
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อกฎหมายส่วนหนึ่งที่โจทก์กล่าวในฎีกา เป็นการโต้แย้งคำสั่งที่สั่งก่อนมีคำพิพากษา หรือคำสั่งชี้ขาดตัดสินคดี แต่ไม่ปรากฎว่า โจทก์ได้โต้แย้งคำสั่งนั้น ๆ ไว้ โจทก์ฎีกาคำสั่งนั้น ๆ ไม่ได้ และโจทก์กล่าวในฎีกาเป็นการโต้แย้งคำพิพากษาของศาลที่วินิจฉัยตีความสมบูรณ์ของพินัยกรรม์ ตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา ๑๖๕๖ เช่นโจทก์ซ่า ตามมาตรา ๑๖๕๖ ที่กล่าวนั้นต้องถามผู้อาพาธ ๓ ครั้ง ๓ หนพินัยกรรม์นั้นจึงสมบูรณ์ เป็นต้น ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.