คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1539/2514

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่ประชุมใหญ่สามัญของบริษัทได้มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่เป็นกรรมการและลงมติให้คณะกรรมการชุดใหม่ให้สัตยาบันการกระทำของคณะกรรมการชุดเก่าได้ ดังนี้แม้มติที่ประชุมใหญ่วิสามัญซึ่งเรียกประชุมโดยคณะกรรมการชุดเก่าจะผิดระเบียบก็ตาม มติดังกล่าวก็ไม่เสียไปเพราะคณะกรรมการชุดใหม่ซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทย่อมมีอำนาจให้สัตยาบันได้

ย่อยาว

ผู้ร้องร้องว่าธนาคารไทยพัฒนา จำกัด เป็นธนาคารพาณิชย์และได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย โดยเป็นบริษัทจำกัด มีกรรมการชุดหนึ่งเป็นผู้ดำเนินงานแทนซึ่งตามข้อบังคับของธนาคารและตามกฎหมาย ผู้เป็นกรรมการของธนาคารจะต้องแต่งขึ้นโดยที่ประชุมใหญ่เท่านั้น ผู้ร้องเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ในธนาคารไทยพัฒนาจำกัดดังกล่าว เนื่องจากมีการเพิ่มทุนของธนาคารจาก ๕๐ ล้านบาทเป็น ๑๐๐ ล้านบาท ธนาคารจึงจัดให้มีการประชุมวิสามัญครั้งที่ ๑/๒๕๑๓ ในวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๓ เพื่อเลือกตั้งกรรมการของธนาคารชุดใหม่เพราะกรรมการชุดเก่าได้รับเลือกตั้งจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น ๕๐ ล้านบาทและได้ลาออกทั้งคณะด้วย ในการจัดให้มีการประชุมครั้งนี้ ธนาคารได้ออกหนังสือนัดประชุมใหญ่เมื่อวันที่ ๖, ๗, ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๓ แต่ได้ลงวันที่ย้อนหลังไปเป็นวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๓ อันเป็นการกระทำที่ไม่สุจริตและไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ผู้ร้องได้รับหนังสือนัดประชุมดังกล่าวในระยะเวลาไม่ครบกำหนดตามกฎหมาย ผู้ร้องได้รับหนังสือนัดประชุมดังกล่าวในระยะเวลาไม่ครบกำหนดตามกฎหมาย และการประกาศกำหนดนัดประชุมใหญ่ทางหนังสือพิมพ์ฯ ธนาคารได้เริ่มประกาศเมื่อวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๓ เป็นการเอาเปรียบแก่ผู้ถือหุ้น และกีดกันไม่ให้ผู้ถือหุ้นได้ทราบและมีโอกาสเตรียมตัวเข้าประชุมและแสดงความคิดเห็นได้โดยเสรี ทำให้ผู้ถือหุ้นซึ่งในที่นี้รวมถึงตัวผู้ร้องด้วยเสียหายการประชุมใหญ่ครั้งนี้ย่อมตกเป็นโมฆะ และที่ที่ประชุมใหญ่มีมติให้เลือกตั้งคณะกรรมการของธนาคารขึ้นชุดหนึ่งเพื่อดำเนินการแทนและในนามของธนาคาร นั้น มติดังกล่าวจึงย่อมตกเป็นโมฆะด้วย จึงขอให้ศาลสั่งไต่สวนคำร้องและพิพากให้การประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ ๑/๒๕๑๓ ของธนาคารตกเป็นโมฆะ และเพิกถอนการแต่งตั้งกรรมการชุดดังกล่าวนั้นเสีย
ผู้คัดค้านคัดค้านว่าบริษัทธนาคารไทยพัฒนาจำกัดได้ลงพิมพ์โฆษณาคำบอกกล่าวเรียกประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ ๑/๒๕๑๓ ในหนังสือพิมพ์สองคราวก่อนวันนัดประชุมไม่น้อยกว่า ๗ วัน และส่งคำบอกกล่าวทางไปรษณีย์ไปยังผู้ถือหุ้นทุกคนก่อนวันนัดประชุมไม่น้อยกว่า ๗ วัน การประชุมดังกล่าวก็เพื่อจะแก้ไขภาวะเสื่อมโทรมของธนาคารซึ่งกรรมการชุดเดิมกระทำไว้เมื่อกรรมการชุดใหญ่เข้ามารับงานได้ให้กรรมการผู้จัดการเก่าออกจากหน้าที่และกวดขันการดำเนินงานโดยตัดทอนค่าใช้จ่ายลงและพยายามเร่งรัดหนี้สิน ผู้ร้องรับหนังสือนัดประชุมใหญ่วิสามัญแล้วแต่ไม่ไปประชุม กลับมาร้องคัดค้านเช่นนี้เป็นการทำให้เสียหายต่อส่วนรวมต่อธนาคารและผู้ถือหุ้นอื่น การดำเนินการประชุมวิสามัญครั้งที่ ๑/๒๕๑๓ เป็นการดำเนินการของกรรมการผู้จัดการที่ให้ออกจากตำแหน่งไปผู้คัดค้านและกรรมการที่ได้รับแต่งตั้งจากที่ประชุม ใหญ่วิสามัญครั้งที่ ๑/๒๕๑๓ จึงพร้อมใจกันลาออกจากตำแหน่งแล้วบริษัทธนาคารไทยพัฒนาจำกัดได้เรียกประชุมใหญ่สามัญประจำปีและที่ประชุม ใหญ่ผู้ถือหุ้นได้มีมติเป็นเอกฉันท์ตั้งกรรมการชุดใหม่และรับรองรายงานการประชุมใหญ่สามัญครั้งที่ ๑/๒๕๑๓ และวิสามัญครั้งที่ ๑/๒๕๑๓ แล้ว เหตุที่ผู้ร้องขอเพิกถอนจึงหมดไปขอให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องและผู้คัดค้านรับกันว่า คณะกรรมการชุดใหม่ซึ่งได้รับแต่งตั้งโดยมติที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ ๑/๒๕๑๓ ได้ลาออกทั้งคณะและต่อมาที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญครั้งที่ ๑/๒๕๑๓ ได้มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการชุดที่ลาออกนี้ขึ้นเป็นคณะกรรมการอีกโดยมีการเปลี่ยนตัวและเพิ่มตัวกรรมการคนใหม่ เพียงคนสองคนเท่านั้น ผู้ร้องจึงฟ้องผู้คัดค้านคดีนี้กับคณะกรรมการชุดดังกล่าวขอให้พิพากษาว่าการประชุมใหญ่สามัญครั้งที่ ๑/๒๕๑๓ เป็นโมฆะ และมติต่าง ๆ อันเกิดแก่การประชุมครั้งนี้ตกเป็นอันไร้ผลตามกฎหมาย ปรากฏตามคดีแดงที่ ๓๘๐๒/๒๕๑๓ ซึ่งศาลแพ่งพิพากษายกฟ้องโจทก์
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกเสียจากสารบบความ
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานของผู้ร้องและผู้ร้องคัดค้าน แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปความ
ผู้ร้องคัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าตามที่ผู้ร้องร้องว่าการประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ ๑/๒๕๑๓ ขัดต่อกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของธนาคาร การประชุมใหญ่ครั้งนี้ย่อมตกเป็นโมฆะ ฉะนั้น มติที่ประชุมที่เลือกตั้งกรรมการชุดหนึ่งขึ้นจึงย่อมตกเป็นโมฆะด้วยนี้น ปรากฏว่าภายหลังคณะกรรมการชุดนี้ได้ลาออกและต่อมาที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัยครั้งที่ ๑/๒๕๑๓ ได้มีมติเป็นเอกฉันท์แต่งตั้งกรรมการชุดใหม่เป็นกรรมการรับรองรายงานการประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ ๑/๒๕๑๓ และลงมติเป็นเอกฉันท์ให้กรรมการชุดใหม่ให้สัตยาบันการกระทำของกรรมการชุดเก่าได้ ดังนี้ คำร้องขอที่ขอให้เพิกถอนมติการแต่งตั้งกรรมการย่อมไม่มีประโยชน์ที่จะพิจารณาต่อไปเพราะกรรมการชุดที่ขอให้เพิก ถอนนั้นได้หมดสภาพไปเสียแล้ว ส่วนข้อที่ขอให้เพิกถอนมติการประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ ๑/๒๕๑๓ ก็เช่นเดียวกัน คือ แม้ว่ามตินั้นจะผิดระเบียบซึ่งศาลอาจสั่งเพิกถอนได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๑๙๕ ก็ตาม แต่เมื่อกรรมการชุดใหม่ได้ลงมติเป็นเอกฉันท์รับรองและให้สัตยาบันในการกระทำของกรรมการชุดเก่าได้แล้ว มติของที่ประชุมใหญ่วิสามัญก็เป็นอันใช้ได้ เพราะมาตรา ๑๑๖๗ บัญญัติว่าความเกี่ยวพันกันในระหว่างกรรมการและบริษัทและบุคคลภายนอกนั้น ท่านให้บังคับตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ว่าด้วยตัวแทน กรรมการชุดใหม่ย่อมเป็นตัวแทนของบริษัทโดยชอบ มีอำนาจให้สัตยาบันได้เมื่อที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์มอบอำนาจให้กรรมการชุดใหม่ให้สัตยาบันการกระทำของกรรม การชุดเก่าได้แล้วเช่นนี้ก็ย่อมไม่มีประโยชน์ที่จะพิจารณาคำร้องขอที่ขอให้เพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ ๑/๒๕๑๓ ต่อไป
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีไปตามคำสั่งศาลชั้นต้น

Share