คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1538/2550

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

บริษัทซึ่งเป็นลูกหนี้ถูกนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานครขีดชื่อออกจากทะเบียนเป็นบริษัทร้าง ทำให้ผู้ร้องซึ่งได้รับโอนสิทธิเรียกร้องมาจากเจ้าหนี้ไม่สามารถฟ้องร้องดำเนินคดีแก่บริษัทดังกล่าวได้ จึงเป็นกรณีที่ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้รู้สึกว่าต้องเสียหายมิเป็นธรรมเพราะการที่บริษัทลูกหนี้ถูกขีดชื่อจากนายทะเบียน แม้ผู้ร้องจะมีสิทธิยื่นฟ้องกรรมการของบริษัทดังกล่าวในฐานะผู้ชำระบัญชีให้ชำระหนี้ของบริษัทได้ เพราะผู้ชำระบัญชีมีหน้าที่ชำระสะสางการงานของบริษัทให้เสร็จไป กับจัดการใช้หนี้เงินและแจกจำหน่ายสินทรัพย์ของบริษัทนั้นตาม ป.พ.พ. มาตรา 1250 ก็ตาม ก็หาเป็นการตัดสิทธิของเจ้าหนี้ของบริษัทที่รู้สึกว่าต้องเสียหายมิเป็นธรรมเพราะการที่บริษัทลูกหนี้ถูกขีดชื่อจากทะเบียน จะยื่นคำร้องขอต่อศาลเพื่อให้บริษัทดังกล่าวกลับจดชื่อคืนเข้าสู่ทะเบียนเพื่อดำเนินการเรียกร้องหนี้สินจากบริษัทโดยตรงไม่

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอว่า บริษัทแค็ปปิตอล เพาเวอร์ จำกัด เป็นลูกหนี้บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ไทยเม็กซ์ จำกัด (มหาชน) โดยมีทรัพย์สินมาจำนองเป็นหลักประกัน ผู้ร้องได้รับโอนสิทธิเรียกร้องในบรรดาสินทรัพย์สินเชื่อธุรกิจและหลักประกันแห่งหนี้ของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ไทยเม็กซ์ จำกัด (มหาชน) มาจากการจำหน่ายสินเชื่อธุรกิจ ซึ่งกระทำโดยองค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) ที่นำออกจำหน่ายเพื่อชำระบัญชีของสถาบันการเงินที่ถูกกระทรวงการคลังสั่งปิดกิจการผู้ร้องได้ทวงถามให้บริษัทแค็ปปิตอล เพาเวอร์ จำกัด ชำระหนี้และบอกกล่าวบังคับจำนองแล้วแต่ยังไม่ได้รับการชำระหนี้ ผู้ร้องประสงค์จะใช้สิทธิทางศาลเพื่อบังคับชำระหนี้และบังคับจำนองแก่บริษัทแค็ปปิตอล เพาเวอร์ จำกัด แต่ไม่สามารถกระทำได้เนื่องจากบริษัทดังกล่าวถูกนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานครขีดชื่อออกจากนายทะเบียนเป็นบริษัทร้าง เป็นเหตุให้ผู้ร้องได้รับความเสียหาย ขอให้ศาลมีคำสั่งให้นายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานครจดชื่อบริษัทดังกล่าวคืนสู่ทะเบียน
ศาลชั้นต้นประกาศนัดไต่สวนแล้ว มีผู้คัดค้าน
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของผู้ร้องว่า มีเหตุสมควรที่ศาลจะสั่งให้นายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานครกลับจดชื่อบริษัทแค็ปปิตอล เพาเวอร์ จำกัด ให้คืนสถานะเป็นนิติบุคคล ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1246 (6) หรือไม่ เห็นว่า ผู้ร้องได้รับโอนสิทธิเรียกร้องในบรรดาสินทรัพย์สินเชื่อธุรกิจและหลักประกันแห่งหนี้ของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ไทยเม็กซ์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของบริษัทแค็ปปิตอล เพาเวอร์ จำกัด มาจำนวน 131,320,148.75 บาท ผู้ร้องทวงถามให้ชำระหนี้และบอกกล่าวบังคับจำนองแก่บริษัทแค็ปปิตอล เพาเวอร์ จำกัด แล้ว ต่อมาผู้ร้องได้ตรวจสอบพบว่าบริษัทดังกล่าวถูกนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานครขีดชื่อออกจากทะเบียนเป็นบริษัทร้างเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2545 ทำให้ผู้ร้องไม่สามารถฟ้องร้องดำเนินคดีแก่บริษัทดังกล่าวได้ จึงเป็นกรณีที่ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้รู้สึกว่าต้องเสียหายมิเป็นธรรมเพราะการที่บริษัทลูกหนี้ถูกขีดชื่อออกจากทะเบียน และเมื่อพิเคราะห์แล้วเห็นว่าเป็นการยุติธรรมในการที่จะให้บริษัทดังกล่าวได้กลับคืนขึ้นทะเบียนเพื่อให้ผู้ร้องดำเนินการเรียกร้องหนี้สินจากบริษัทดังกล่าวได้โดยตรง แม้ผู้ร้องจะมีสิทธิยื่นฟ้องกรรมการของบริษัทดังกล่าวในฐานะผู้ชำระบัญชีให้ชำระหนี้ของบริษัทได้เพราะผู้ชำระบัญชีมีหน้าที่ชำระสะสางการงานของบริษัทเสร็จไป กับจัดการใช้หนี้เงินและแจกจำหน่ายสินทรัพย์ของบริษัทนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1250 ก็ตาม ก็หาเป็นการตัดสิทธิของเจ้าหนี้ของบริษัทที่รู้สึกว่าต้องเสียหายมิเป็นธรรมเพราะการที่บริษัทลูกหนี้ถูกขีดชื่อจากทะเบียน จะยื่นคำร้องขอต่อศาลเพื่อให้บริษัทดังกล่าวกลับจดชื่อคืนเข้าสู่ทะเบียนเพื่อดำเนินการเรียกร้องหนี้สินจากบริษัทโดยตรงไม่ ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องขอของผู้ร้องนั้นศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของผู้ร้องฟังขึ้น”
พิพากษากลับ ให้นายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานครกลับจดชื่อบริษัทแค็ปปิตอล เพาเวอร์ จำกัด ให้คืนสถานะเป็นนิติบุคคลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1246 (6)

Share