คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1535/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ดอกผลธรรมดาตามมาตรา 111(1) นั้นหมายถึงบรรดาสิ่งทั้งปวงซึ่งได้มาเพราะใช้ของนั้น อันเกิดโดยธรรมชาติของมันดังเช่น ผลไม้ น้ำนม ขน และลูกของสัตว์
ส่วนต้นข้าวที่ทำได้จากนานั้นเป็นสังหาริมทรัพย์ต้นข้าวเกิดขึ้นจากแรงงานไม่ใช่ดอกผลของนา ฉะนั้นข้าวเปลือกก็ไม่ใช่ดอกผลของนาเช่นเดียวกัน
(ประชุมใหญ่)
ฟ้องเรียกข้าวฐานเป็นดอกผลธรรมดา เมื่อวินิจฉัยว่าข้าวไม่ใช่ดอกผลธรรมดาโจทก์ไม่มีสิทธิขอแบ่งแล้ว จะเปลี่ยนเป็นให้แบ่งค่าเช่านาอันเป็นดอกผลนิตินัยแก่โจทก์ย่อมไม่ได้ เพราะนอกฟ้องนอกประเด็น

ย่อยาว

ได้ความว่าโจทก์จำเลยเป็นความกันเรื่องมรดก ในระหว่างเป็นความกันอยู่นั้นจำเลยเป็นผู้ทำนามรดกและทำสวนยางมรดก กับครอบครองสวนและกระบือมรดก
ครั้นแล้ว โจทก์จึงมาฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้อีกสำนวนหนึ่งเรียกเอาผลประโยชน์จากทรัพย์มรดก คือข้าวที่จำเลยทำนายางที่จำเลยกรีดได้ ผลอาสินในสวนกับค่าที่จำเลยใช้กระบือหาผลประโยชน์ในระหว่างที่ทรัพย์เหล่านี้นอยู่ในความครอบครองของจำเลย ตอนเป็นความกันนี้
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าสำหรับค่าผลอาสิน ได้ผลเล็กน้อยและถูกช้างป่ารบกวน กระบือก็ขายไปเสียก่อนแล้วโจทก์จึงไม่ควรได้ส่วนแบ่ง
สำหรับยางที่จำเลยกรีดได้นั้น เป็นดอกผลธรรมดาโจทก์ควรได้รับส่วนแบ่ง
สำหรับข้าวในนาที่จำเลยทำได้นั้น ศาลฎีกาได้ประชุมใหญ่แล้วเห็นว่าดอกผลธรรมดาตามมาตรา ๑๑๑(๑) นั้นหมายถึงบรรดาสิ่งทั้งปวง ซึ่งได้มาเพราะใช้ของนั้นอันเกิดโดยธรรมชาติของมัน ดังเช่นผลไม้ น้ำนม ขน และลูกของสัตว์ ซึ่งเกิดจากต้นไม้หรือตัวสัตว์ที่เป็นทรัพย์ร่วมกัน ส่วนต้นข้าวที่ทำได้จากนานั้นเป็นสังหาริมทรัพย์ ต้นข้าวเกิดจากแรงงานไม่ใช่ดอกผลของนา ฉะนั้นข้าเปลือกก็ไม่ใช่ดอกผลของนาเช่นเดียวกันโจทก์จึงไม่มีสิทธิของแบ่ง และจะพิพากษาเปลี่ยนเป็นแบ่งค่าเช่าให้แก่โจทก์ก็เป็นการนอกฟ้องนอกประเด็น จึงพิพากษาให้ไม่ได้ฉะนั้นจึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยใช้ค่าดอกผล ๒ ใน ๙ ของราคายางให้แก่โจทก์

Share