คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1533/2521

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยเอาไม้ที่ปูพื้นเรือนของโจทก์ร่วม 8 แผ่น ไปปูบนร่องสวนเพื่อใช้จัดงานศพชั่วคราว มิได้มีเจตนาเอาไปเลย ไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ จำคุกจำเลย 1 ปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “บ้านหลังนี้เก่ามีสภาพชำรุดทรุดโทรมปลูกอยู่ในสวน ฝาขัดแตะ เสาไม้จริงผุกร่อนแทบทุกต้น ดังปรากฏตามภาพถ่ายหลังคามุงจาก พื้นกระดาน จำเลยเช่าอยู่อาศัยมากว่า 30 ปี โจทก์ให้จำเลยออกไปภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2519 ก่อนถึงกำหนดจำเลยได้รื้อเอาไม้พื้นกระดานไป 8 แผ่น เมื่อโจทก์ร่วมมาตรวจพบเข้าและไปแจ้งตำรวจ จำเลยก็นำกลับมาคืนให้ตามเดิม แต่ทั้งสองฝ่ายยังโต้เถียงกันอยู่ โดยโจทก์ร่วมอ้างว่าไม่ใช่ไม้ของเดิม แต่ปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาซึ่งศาลไปเดินเผชิญสืบว่าไม้ที่จำเลยคืนและไม้กระดานพื้นบ้านของโจทก์เป็นไม้ชนิดเดียวกันมีสภาพเก่าเหมือนกัน แม้บางแผ่นจะสั้นกว่ากันเล็กน้อย ก็เหมือนกับที่ห้องด้านหน้าเชื่อว่าไม้ที่จำเลยนำมาคืนเป็นไม้กระดานแผ่นเดิมมิได้เปลี่ยนไม้อื่นมาให้ โจทก์มิได้ฎีกาในข้อนี้ จึงมีปัญหาต่อไปที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยเพียงข้อเดียวว่าจำเลยมีเจตนาลักทรัพย์รายนี้หรือไม่ ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยเอาไม้ยางมาปูแทนไม้แดงจึงมีเจตนาทุจริต ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อเกิดเรื่องขึ้น จ่าสิบตำรวจจรัสได้ไกลเกลี่ยจำเลยก็ยอมคืนไม้ให้โจทก์ร่วมแต่โดยดี ทั้งสองครั้งที่จำเลยเอาไม้ไปให้โจทก์ร่วมก็ยังคงยืนยันว่าไม่ใช่ไม้ของเดิมอยู่นั่นเองแสดงให้เห็นว่ามีความอาฆาตโกรธเคืองจำเลยอยู่ ระหว่างนั้นคือเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2519 ก่อนครบกำหนดวันที่โจทก์ผ่อนผันให้จำเลยอยู่ บิดาของจำเลยได้ถึงแก่กรรมที่บ้านพี่ชายซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กัน จำเลยว่าจึงมีความจำเป็นต้องเอาไม้กระดานไปปูบนร่องสวนเพื่อจัดงานศพ เพราะหาที่อื่นไม่ได้ ทั้งที่บ้านพี่ชายหลังเล็กไม่พอจัดงานและรับแขก เมื่อร้อยตำรวจโทพินัยสอบถามจำเลยก็ให้การดังนั้นมาแต่ต้น จึงน่าเชื่อว่าจำเลยได้เอาไม้กระดานของโจทก์ร่วมไปใช้แต่เพียงชั่วคราว มิได้เจตนาเอาไปเลยดังที่จำเลยฎีกาพยานจำเลยซึ่งเป็นญาติของทั้งสองฝ่ายก็เบิกความในทำนองนี้ รูปคดียังเป็นที่สงสัยอยู่ว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตหรือไม่ ควรยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย”

พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องตามศาลชั้นต้น

Share