แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องโจทก์กล่าวอ้างว่าโจทก์เป็นบุคคลผู้เป็นพ่อค้าขายรถยนต์ ได้ขายรถยนต์จำนวน 1 คันให้จำเลย ได้ส่งมอบรถยนต์ให้จำเลยรับไปแล้ว จำเลยผิดนัดไม่ชำระราคารถยนต์ที่ค้างชำระให้โจทก์ ขอให้ศาลบังคับ ดังนี้ ฟ้องของโจทก์จึงเป็นกรณีที่โจทก์ผู้เป็นพ่อค้ารถยนต์เรียกเอาค่าที่ได้ส่งมอบรถยนต์จากจำเลยตามสัญญาซื้อขายจึงมีกำหนดอายุความ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 165(1)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์มีวัตถุประสงค์ทำการค้า ส่วนใหญ่เป็นนายหน้าตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ จำเลยได้ทำสัญญาซื้อขายรถยนต์ โดยมีเงื่อนไขไปจากโจทก์จำนวน ๑ คัน จำเลยได้รับมอบรถยนต์ไปจากโจทก์ในวันทำสัญญานั้นเอง ราคารถยนต์ที่ซื้อขายเป็นเงิน ๑๗๗,๐๐๐ บาท จำเลยชำระครั้งแรกในวันทำสัญญา ๓๓,๐๐๐ บาท ส่วนที่เหลือแบ่งชำระเป็นงวด ๆ รวม ๓๐ งวด งวดสุดท้ายชำระในวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๒๑ หากผิดนัดงวดใดงวดหนึ่งให้ถือว่าเป็นการผิดนัดผิดสัญญา ยอมให้ริบมัดจำโดยมิต้องบอกกล่าวล่วงหน้าจำเลยชำระเงินให้โจทก์รวม ๘ ครั้ง ครั้งสุดท้ายวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๐ ทวงถามแล้ว จำเลยเพิกเฉย ขอให้ศาลบังคับ
จำเลยให้การว่า โจทก์เป็นผู้มีอาชีพค้าขายสินค้าจำพวกรถยนต์อะไหล่ โจทก์จึงเป็นบุคคลผู้เป็นพ่อค้า จำเลยได้ซื้อรถยนต์ตามฟ้องไปจากโจทก์โดยผ่อนชำระเป็นงวด ๆ รวม ๓๐ งวด จำเลยชำระราคารถให้โจทก์ครั้งสุดท้ายวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๐ นับถึงวันฟ้องเกินกว่า ๒ ปี คดีขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินให้โจทก์ตามฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ฟ้องอ้างว่าโจทก์เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดมีวัตถุประสงค์ทำการค้าเป็นนายหน้า ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์และเครื่องอะไหล่ จำเลยได้ซื้อรถยนต์โดยมีเงื่อนไขไปจากโจทก์ ๑ คัน จำเลยได้รับมอบรถยนต์ไปจากโจทก์ในวันทำสัญญา จำเลยได้ชำระเงินให้โจทก์ครั้งแรก ๓๓,๐๐๐ บาท ส่วนที่เหลือจะผ่อนชำระเป็นงวด ๆ รวม ๓๐ งวด เริ่มชำระงวดแรก ๙ ตุลาคม ๒๕๑๘ จำเลยได้ผ่อนชำระให้โจทก์รวม ๘ ครั้ง ครั้งสุดท้ายชำระให้เมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๐ แล้วไม่ชำระให้อีกเลย ขอให้ศาลบังคับจำเลยชำระเงินที่ค้างพร้อมดอกเบี้ย ดังนี้ จะเห็นได้ว่าสภาพแห่งข้อหา ข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาและคำขอบังคับของโจทก์เป็นเรื่องที่โจทก์กล่าวอ้างว่าโจทก์เป็นบุคคลผู้เป็นพ่อค้าขายรถยนต์ ได้ขายรถยนต์จำนวน ๑ คัน ให้จำเลย ได้ส่งมอบรถยนต์ให้จำเลยรับไปแล้ว จำเลยผิดนัดไม่ชำระราคารถยนต์ที่ค้างให้โจทก์ ขอให้ศาลพิพากษาบังคับ โจทก์มิได้ฟ้องจำเลยโดยกล่าวอ้างว่าโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์ที่ขายให้จำเลย แล้วจำเลยผิดนัดผิดสัญญาขอให้ศาลบังคับให้จำเลยส่งมอบรถยนต์คืนให้โจทก์ มิฉะนั้นให้ใช้ราคาแทนแต่อย่างใดไม่ ฟ้องของโจทก์จึงเป็นกรณีที่โจทก์ผู้เป็นพ่อค้ารถยนต์เรียกเอาค่าที่ได้ส่งมอบรถยนต์จากจำเลยตามสัญญาซื้อขาย ซึ่งมีกำหนดอายุความ ๒ ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๕(๑) ปรากฏตามฟ้องและสัญญาขายรถยนต์ว่าจำเลยตกลงผ่อนชำระงวดแรกตั้งแต่วันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๑๘ เป็นต้นไป ถึงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๒๑ รวม ๓๐ งวด จำเลยผ่อนชำระงวดแรกให้โจทก์เมื่อวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๑๘ มิใช่วันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๑๘ ตามที่กำหนดไว้ในสัญญาตามวันแห่งปฏิทิน ถือได้ว่าจำเลยผิดนัดตั้งแต่วันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๑๘ และโจทก์อาจบังคับสิทธิเรียกร้องตามสัญญาซื้อขายรถยนต์เอาแก่จำเลยได้นับแต่วันดังกล่าว หรือแม้นับแต่วันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๐ ซึ่งโจทก์ถือว่าจำเลยผิดนัดวันฟ้องวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๔ ก็เกินกำหนด ๒ ปี คดีโจทก์จึงขาดอายุความ
พิพากษายืน