แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ขณะสุราของโจทก์ร่วมหายไปไม่มีพยานรู้เห็นโจทก์ร่วมมาทราบว่าสุราขาดหายก็เนื่องจากมีการตรวจสอบบัญชีสุราคงเหลือและที่กล่าวหาจำเลยทั้งสองก็เพราะจำเลยทั้งสองเป็นผู้รับผิดชอบในสุราที่หายไปแต่ปรากฎว่ายังมีช. พนักงานของโจทก์ร่วมอีกคนหนึ่งเป็นผู้นำสุราไปขายให้แก่ร้านค้าและเก็บเงินจากร้านค้าซึ่งภายหลังเกิดเหตุช. ได้หลบหนีไปพยานโจทก์และโจทก์ร่วมนอกจากนี้ก็ไม่มีผู้ใดยืนยันหรือชี้ชัดได้ว่าจำเลยทั้งสองเป็นผู้ยักยอกสุราของโจทก์ร่วมไปมีวิธีการยักยอกและนำไปจำหน่ายอย่างไรดังนั้นการที่สุราของโจทก์ร่วมขาดหายไปจากสต๊อกอาจจะเป็นเพราะช. นำไปขายและยังเก็บเงินจากลูกค้าไม่ได้ก็ได้พยานหลักฐานของโจทก์และโจทก์ร่วมจึงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่1ยักยอกสุราของโจทก์ร่วมไป
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 335 และให้จำเลยทั้งสองร่วมกันคืนหรือใช้ราคาทรัพย์1,272,432 บาท แก่ผู้เสียหาย
จำเลยทั้งสองให้การปฎิเสธ
ระหว่างพิจารณา บริษัทวรากิจการสุรา จำกัด ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 วรรคแรก จำคุก 2 ปี และให้จำเลยที่ 1คืนหรือใช้ราคาทรัพย์รวม 1,272,432 บาท แก่โจทก์ร่วมด้วย ส่วนจำเลยที่ 2 ให้ยกฟ้อง
โจทก์ร่วมและจำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1 ด้วยนอกจากนี้แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานยักยอกทรัพย์หรือไม่เห็นว่า ขณะสุราของโจทก์หายไปไม่มีพยานรู้เห็น เหตุที่โจทก์ร่วมทราบว่าสุราขาดหายก็เนื่องจากมีการตรวจสอบบัญชีสุราคงเหลือและเหตุที่กล่าวหาจำเลยทั้งสองก็เพราะจำเลยทั้งสองเป็นผู้รับผิดชอบในสุราที่ขาดหายดังกล่าว แม้จำเลยที่ 1 จะเป็นหัวหน้าฝ่ายขายหน้าร้านของโจทก์ร่วม แต่ก็ยังมีจำเลยที่ 2 ทำหน้าที่ควบคุมสต๊อกและขายสุราหน้าร้านโจทก์ร่วมอีกด้วย นอกจากนั้นยังมีนายไชยยันต์เขียนสะอาด พนักงานของโจทก์ร่วมเป็นผู้นำสุราไปขายให้แก่ร้านค้าและเก็บเงินจากร้านค้า ได้ความตามคำเบิกความของนายฤทธิพงศ์สมบูรณ์ พยานโจทก์ว่า พยานได้ซื้อสุราจากโจทก์ร่วมมาขายโดยนายไชยยันต์เป็นผู้นำไปส่งให้พยานจ่ายเช็คเอกสารหมาย จ.6ให้แก่นายไชยยันต์เพื่อเป็นค่าสุราส่วนหนึ่งและเป็นเช็คที่นายไชยยันต์ขอให้พยานช่วยออกให้เพื่อนำไปปิดบัญชีเพราะเก็บค่าสุราไม่ได้ หลังเกิดเหตุแล้วทางโจทก์ร่วมได้ตรวจสอบเช็คเอกสารหมาย จ.6 พยานได้จ่ายเงินเป็นค่าสุราให้โจทก์ร่วม 150,000บาท และปรากฎว่าเมื่อโจทก์ร่วมได้สอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องสุราที่ขาดหายไป นายไชยยันต์ได้หลบหนีพยานโจทก์และโจทก์ร่วมนอกจากนี้ก็ไม่มีผู้ใดยืนยันหรือชี้ชัดได้ว่าจำเลยทั้งสองเป็นผู้ยักยอกสุราของโจทก์ร่วมไป มีวิธีการยักยอกและนำไปจำหน่ายอย่างไรตามพฤติการณ์ดังกล่าว การที่สุราของโจทก์ร่วมขาดหายไปจากสต๊อกอาจจะเป็นเพราะนายไชยยันต์นำไปขายและยังเก็บเงินจากลูกค้าไม่ได้ก็ได้ พยานหลักฐานของโจทก์และโจทก์ร่วมยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้ยักยอกสุราของโจทก์ร่วมไป ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3พิพากษามานั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน