คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 153/2522

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยขายลดเช็คผู้ถือแก่โจทก์ โจทก์เก็บเงินตามเช็คไม่ได้ โจทก์ฟ้องจำเลยได้ มีอายุความ 10 ปี ตามมาตรา164

ย่อยาว

จำเลยขายลดเช็คของธนาคารศรีอยุธยา เงิน 10,000 บาท เป็นเช็คผู้ถือมอบเช็คแก่โจทก์ ธนาคารผู้จ่ายปฏิเสธการจ่ายเงิน ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีขาดอายุความ พิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์17,500 บาทกับดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปีในต้นเงิน 10,000 บาทตั้งแต่วันฟ้องจำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “มีปัญหาในชั้นฎีกาว่าคดีโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ ข้อเท็จจริงจากคำฟ้องและคำให้การฟังได้ว่า จำเลยได้นำเช็คพิพาทไปขายลดให้แก่ธนาคารโจทก์ โดยทำใบขอขายลดตั๋วเงินให้โจทก์เป็นหนังสือมีข้อสัญญาว่า ถ้าโจทก์มิได้รับชำระเงินด้วยเหตุใด ๆ จำเลยยินยอมใช้เงินให้แก่ธนาคารรวมทั้งดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ปรากฏตามสำเนาเช็คลงวันที่ 15 พฤษภาคม 2512 และสำเนาใบขอขายลดตั๋วเงินลงวันที่ 15เมษายน 2512 ตามเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 4 และ 5 ตามลำดับ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า สิทธิเรียกร้องของโจทก์ตามสัญญาขายลดเช็คไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้โดยเฉพาะ จึงต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 164 คือมีอายุความ 10 ปี คดีจึงไม่ขาดอายุความ ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 855/2520 ระหว่างธนาคารเอเซียทรัสต์ จำกัด โดยนางลินดา อันทวานิชและนางสาวระพี ธันธนภา ผู้รับมอบอำนาจ โจทก์ นางเซียมเกียว แซ่เบ๊ หรือนางศิริวรรณ โอฬาริกเดช จำเลย”

พิพากษายืน

Share