แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
บุตรสาวผู้ตายหนีตามจำเลย ผู้ตายตามไปทัน ใช้ไม้ตีบุตรสาว จำเลยขอร้องผู้ตายกลับตีจำเลย จำเลยจึงใช้สนับมือชกผู้ตาย ผู้ตายเงื้อมีดที่ถือจะฟันจำเลยจำเลยจับมือมีดหลุดตกพื้นดิน ผู้ตายก้มลงจะเก็บแต่จำเลยไวกว่าแย่งมีดไว้ได้แล้วใช้มีดฟันผู้ตาย 2 ทีถึงตายเมื่อปรากฏว่าขณะจำเลยแย่งมีดได้จากผู้ตายผู้ตายไม่มีโอกาสจะต่อสู้ หากจำเลยจะยับยั้งไม่ใช้มีดนั้นฟันผู้ตายให้ตายก็ได้ แต่จำเลยหาละการอันควรเว้นไม่ ดังนี้การกระทำของจำเลยหาใช่การป้องกันไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้สนับมือและมีดทำร้ายนายพะนะอุตายโดยเจตนาขอให้ลงโทษ
จำเลยภาคเสธว่าป้องกันตัว
ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยกระทำการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุพิพากษายกฟ้อง ปล่อยจำเลย
โจทก์อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยฆ่าผู้ตายโดยบันดาลโทสะเพราะผู้ตายทำร้ายจำเลยก่อน การกระทำของจำเลยไม่เข้าลักษณะป้องกันตัว พิพากษาแก้ว่าจำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 249 ให้จำคุกจำเลย 15 ปี ลดตามมาตรา 55 เหลือ 6 ปี 7 เดือนและปรานีลดตามมาตรา 59 อีก 2 ปี 6 เดือน คงจำคุกจำเลย 5 ปี
จำเลยฎีกา
ทางพิจารณาได้ความว่านางเข่ดูบุตรสาวผู้ตายตามจำเลยไปในทางชู้สาว ผู้ตายตามไปทัน จึงใช้ไม้โตขนาดเหรียญ 2 สลึง ยาวศอกเศษตีนางเข่ดู จำเลยเข้าห้ามและขอร้อง ผู้ตายไม่ฟังและใช้ไม้ตีศีรษะจำเลย1 ที ที่กลางหลังหลายทีจนไม้หัก จำเลยใช้สนับมือชกตอบไปถูกหน้าและศีรษะผู้ตาย ๆ เงื้อมีดที่ถือจะฟันจำเลย ๆ จับมือผู้ตายไว้มีดหลุดยังพื้นดิน ผู้ตายก้มลงจะเก็บ แต่จำเลยไวกว่าแย่งมีดได้แล้วใช้มีดนั้นฟันผู้ตาย 2 ที แล้วหนีไป
ศาลฎีกาเห็นว่าที่จำเลยแย่งมีดได้จากผู้ตาย ๆ ไม่มีโอกาสจะต่อสู้ หากจำเลยจะยับยั้งไม่ใช้มีดนั้นฟันผู้ตายให้ตายก็ได้แต่จำเลยก็หาละการอันควรเว้นไม่ ดังนี้การกระทำของจำเลยหาใช่การป้องกันตัวไม่ พิพากษายืน