คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1518/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฉุดพาหญิงไปข่มขืนกระทำชำเราและกักขังไว้ เป็นความผิดฐานฉุดหญิงไปตาม ป.อ. ม.284 กระทงหนึ่ง ม.310 ฐานกักขังกระทงหนึ่งกับฐานข่มขืนกระทำชำเราโดยโทรมหญิง ตาม ม.276วรรค 2 อีกกระทงหนึ่งการข่มขืนตาม ม.276 กระทำหลายครั้งหลายวันก็เป็นความผิดกรรมเดียวต่อเนื่องกันจากเจตนาเดิม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองกับพวกใช้อาวุธขู่เข็ญและใช้กำลังกายฉุดพานางสาวม้วยอายุ 16 ปีไปเพื่อการอนาจารกระทงหนึ่ง จำเลยทั้งสองกับพวกร่วมกันใช้อาวุธขู่เข็ญและใช้กำลังประทุษร้ายแล้วข่มขืนกระทำชำเรานางสาวม้วย (ในเวลากลางวัน) อันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงกระทงหนึ่งจำเลยทั้งสองกับพวกร่วมกันข่มขืนกระทำชำเรานางสาวม้วย (ในเวลากลางคืน)อันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงกระทงหนึ่ง จำเลยที่ 1 ข่มขืนกระทำชำเรานางสาวม้วยหลายครั้งหลายหนในระยะเวลาหลายวันติดต่อกันกระทงหนึ่งจำเลยทั้งสองกับพวกร่วมกันหน่วงเหนี่ยวและกักขังนางสาวม้วยไว้ในที่ต่าง ๆ กันกระทงหนึ่ง และจำเลยที่ 1 มีอาวุธปืนพกไม่มีทะเบียน 1 กระบอก อาวุธปืนลูกซองยาวมีทะเบียนของผู้อื่น 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276, 284, 310, 32, 83 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 7, 10 พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ(ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2517 มาตรา 3 และริบอาวุธปืนพกกับกระสุนปืน

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคสอง สองกระทงจำคุกกระทงละ 10 ปี มาตรา 284 จำคุกคนละ 1 ปี มาตรา 310 จำคุกคนละ 3 เดือน จำเลยที่ 1 มีความผิดตามมาตรา 276 วรรคแรก จำคุก 1 ปี และผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2517 มาตรา 3 จำคุก 6 เดือน เรียงกระทงลงโทษ รวมจำคุกจำเลยที่ 1 ไว้ 22 ปี 9 เดือน จำคุกจำเลยที่ 2 ไว้ 21 ปี3 เดือน คำให้การชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้คนละหนึ่งในสามคงจำคุกจำเลยที่ 1 ไว้ 15 ปี 2 เดือน จำคุกจำเลยที่ 2ไว้ 14 ปี 2 เดือน ของกลางริบ

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามมาตรา 284, 310 อันเป็นกรรมเดียวกัน เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษตามมาตรา 284 ซึ่งเป็นบทหนักจำคุกคนละ 1 ปี กระทงหนึ่งจำเลยที่ 1 แต่ผู้เดียวผิดตามมาตรา 276 วรรคแรก รวม 2 กรรม ลงโทษกรรมละ 1 ปี รวมโทษจำคุก จำเลยที่ 1 ไว้ 3 ปี จำเลยทั้งสองรับสารภาพชั้นสอบสวนลดโทษให้คนละหนึ่งในสามคงจำคุกจำเลยที่ 1 ไว้ 2 ปีจำเลยที่ 2 ไว้ 8 เดือน ข้อหาอื่นของจำเลยทั้งสองให้ยก นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2519 เวลาประมาณ 16 นาฬิกา จำเลยทั้งสองกับพวกรวม 4 คน มีมีดและปืนเป็นอาวุธร่วมกันฉุดเอาตัวนางสาวม้วยอายุ 16 ปีไป จำเลยทั้งสองกับพวกได้ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเรานางสาวม้วยอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงในเวลากลางวันครั้งหนึ่ง และในเวลากลางคืนอีกครั้งหนึ่ง แล้วต่อมาจำเลยที่ 1 แต่ผู้เดียวได้ข่มขืนกระทำชำเรานางสาวม้วยในระยะเวลาหลายวันหลายคืนติดต่อกันตามฟ้อง ทั้งต่อมาได้พาตัวผู้เสียหายไปกักขังไว้ที่บ้านพักหลายแห่งหลายคืน ดังนี้ เห็นได้ว่าการที่จำเลยทั้งสองร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้เสียหายไว้ในสถานที่ต่าง ๆ เป็นเวลาหลายคืนนั้น เป็นความผิดอีกกระทงหนึ่งต่างหากจากความผิดฐานพาหญิงไปเพื่อการอนาจาร หาใช่เป็นกรรมเดียวกันไม่

ที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าความผิดตามข้อ ข. ค. และ ง. (คือร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงสองกรรมตามข้อ ข.และ ค. และจำเลยที่ 1 คนเดียวข่มขืนกระทำชำเราตามข้อ ง. เป็นความผิดหลายกรรม และศาลชั้นต้นก็เห็นว่าเป็นความผิดหลายกรรมและเรียงกระทงลงโทษจำเลยทั้งสองนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยทั้งสองมีเจตนาพาผู้เสียหายไปเพื่อข่มขืนกระทำชำเรา และจำเลยทั้งสองได้ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายในวาระแรกและวาระต่อ ๆ มานั้น เป็นการกระทำต่อเนื่องกันจากเจตนาเดิมนั่นเอง แยกออกจากกันมิได้ การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำเลยทั้งสองฐานพาหญิงไปเพื่อการอนาจารตามมาตรา 284 กระทงหนึ่ง จำคุกคนละ 1 ปี ฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นตามมาตรา 310 อีกกระทงหนึ่ง จำคุกคนละ 3 เดือน และลงโทษฐานข่มขืนกระทำชำเราตามมาตรา 276 วรรคแรก และวรรคสอง อันเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษตามมาตรา 276 วรรคสอง ซึ่งเป็นบทหนักจำคุกคนละ 10 ปี รวมลงโทษจำคุกคนละ 11 ปี 3 เดือนคำให้การชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้คนละหนึ่งในสามคงจำคุกคนละ 7 ปี 6 เดือน นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share