คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1518/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในฟ้องโจทก์บรรยายว่าจำเลยใช้ของแข็งมีคมเป็นอาวุธฟันทำร้าย แต่ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยใช้ท่อนเหล็กกลมตีทำร้ายนั้น เป็นข้อแตกต่างที่มิใช่สารสำคัญ ทั้งจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้เพราะจำเลยต่อสู้อ้างฐานที่อยู่ ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ได้ความนั้นได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้วัตถุของแข็งมีคมเป็นอาวุธฟันทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา ๒๙๕
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๕ ให้จำคุก ๘ เดือน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยใช้อาวุธที่ใช้ทำร้ายตามที่โจทก์นำสืบแตกต่างกับที่กล่าวไว้ในฟ้อง ข้อนี้ปรากฏจากรายงานการตรวจชันสูตรบาดแผลของแพทย์ว่า บาดแผลถูกของแข็งมีคม ซึ่งหมายความนี้เป็นเพียงข้อสันนิษฐานเท่านั้น อาจไม่ถูกต้องตรงกับความเป็นจริงก็ได้ เพราะแพทย์ก็ไม่ได้มาเบิกความประกอบให้เห็นว่าลักษณะของบาดแผลที่ถูกของแข็งมีดคมนั้น แตกต่างกับบาดแผลที่ถูกท่อนเหล็กตีว่าต่างกันอย่างไร เพราะฉะนั้นจะฟังว่าบาดแผลที่ปรากฏจากรายงานการตรวจชันสูตรของแพทย์ท้ายฟ้องขัดแย้งกับประจักษ์พยานโจทก์เบิกความนั้นไม่ได้ เมื่อประจักษ์พยานโจทก์สามคนเบิกความยืนยันว่าจำเลยใช้ท่อนเหล็กตีนายมะแอย่อมมีน้ำหนักดีกว่าและควรรับฟังตามประจักษ์พยานโจทก์เบิกความ
ในฟ้องโจทก์บรรยายว่าจำเลยใช้ของแข็งมีคมเป็นอาวุธฟันทำร้าย แต่ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยใช้ท่อนเหล็กกลมตีทำร้ายนั้น เป็นข้อแตกต่างที่มิใช่สารสำคัญ ทั้งจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้เพราะจำเลยต่อสู้อ้างฐานที่อยู่ ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ได้ความนั้นได้
พิพากษายืน

Share