คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 151/2483

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

อำเภอออกประกาศขายที่ดินซึ่งบุคคลผู้อื่นเป็นเจ้าของร่วมอยู่ด้วย มิได้ไปร้องคัดค้านนั้น จะถือว่าเป็นการยินยอมให้ขายมิได้การได้มาซึ่งทรัพย์สิทธิในคลังหาริมทรัพย์ โดยทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนการได้มากับพนักงานเจ้าหน้าที่นั้นจะเป็นผลสมบูรณ์ต่อเมื่อการกระทำนั้นเป็นไปโดยสุจริต

ย่อยาว

ได้ความว่า จำเลยกับนายเปียมีชื่อร่วมกันเป็นเจ้าของที่นาแปลงหนึ่ง นายเปียได้ทำสัญญาจะขายที่ให้แก่โจทก์ จึงยื่นคำร้องขอให้อำเภอออกประกาศขาย อำเภอได้ออกประกาศขาย จำเลยก็ทราบว่าอำเภอออกประกาศ แต่ไม่ได้ไปร้องคัดค้าน ในครั้งนั้นไม่ได้ทำสัญญาซื้อขายกัน ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๗ โจทก์ได้ทำสัญญาซื้อขาย ที่รายพิพากษากับนายเปีย โจทก์จึงได้นำจำเลยมายังกองที่ดินและโลหกิจเพื่อให้ถอนตัวจากเป็นเจ้าของ จำเลยไม่ยอม
ศาลชั้นต้นเห็นว่า แม้จำเลยจะเป็นเจ้าของร่วมในที่แปลงนี้กับนายเปีย แต่มิได้คัดค้านการขายโจทก์ ผู้รับซื้อโดยสุจริและจดทะเบียนถูกต้องย่อมเป็นเจ้าของตาม ประมวลแพ่ง ฯ ม. ๑๒๙๙ วรรถท้าย พิพากษาให้ที่เป็นของโจทก์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ที่รายพิพาทเป็นกรรมสิทธิร่วมกันระหว่างนายเปียกับจำเลยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะอ้างเป็นสิทธิของตนแต่ผู้เดียวไม่ได้การที่โจทก์ทำสัญญาซื้อที่จากนายเปียนั้น จะถือว่ากระทำโดยสุจริตไม่สนิทนักจะยกประมวลแพ่ง ฯ ม. ๑๒๙๙ มาบังคับตัดสิทธิจำเลยไม่ชอบ จึงพิพากษาแก้ ให้โจทก์คงมีสิทธิฉะเพราะส่วนที่ซื้อจากนายเปียและจำเลยมีสิทธิส่วนขอยจำเลย
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าการที่จำเลยมิได้ไปคัดค้านต่ออำเภอนั้นยังไม่พอให้คือว่าจำเลยยินยอมให้นายเปียขายที่รายพิพาทให้แก่โจทก์ และเห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์ว่าจะถือว่า โจทก์ทำการโดยสุจริตไม่สนิท เพราะโจทก์ก็ทราบว่าจำเลยมีชื่อเป็นเจ้าของร่วมอยู่ด้วย ฉะนั้นจะยกประมวลแพ่ง ฯ ม. ๑๒๙๙ มาบังคับไม่ได้ พิพากษายืนตาม ศาลอุทธรณ์

Share