คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1506/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยกับพวกร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้ายชกต่อยผู้เสียหายปรากฏตามรายงาน การตรวจชันสูตรบาดแผลของแพทย์เพียงว่า คางข้างขวาบวม ไม่มีเขียว ไม่ช้ำ รักษาหายภายใน 3 วัน เป็นบาดแผลเล็กน้อย ไม่ถึงกับเป็นเหตุได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 วรรคสองมิใช่วรรคสี่
การขอให้ศาลปรับผู้ปกครองในกรณีเด็กก่อเหตุร้ายขึ้นภายในเวลาในข้อกำหนดนั้น จะต้องร้องขอในคดีเดิมที่ศาลวางข้อกำหนดไว้ โจทก์จะมาขอในคดีนี้ไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกอีก ๑ คนที่หลบหนีไป ได้ร่วมกันชิงทรัพย์นาฬิกาข้อมือของผู้เสียหายไปโดยทุจริต ในการชิงทรัพย์นี้จำเลยกับพวกได้ใช้กำลังประทุษร้ายผู้เสียหายกับพวก เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กาย ก่อนคดีนี้จำเลยซึ่งมีอายุ ๑๖ ปี เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดฐานชิงทรัพย์ โดยศาลพิพากษาให้ทำทัณฑ์บนจำเลยไว้และให้บิดาของจำเลยรับตัวไปมิให้ก่อเหตุร้ายภายในเวลา ๓ ปี ถ้าหากจำเลยก่อเหตุร้ายขึ้นอีกให้ปรับครั้งละ ๑,๐๐๐ บาท ปรากฏตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๑๘๘/๒๕๑๕ ของศาลทหารกรุงเทพ(ศาลจังหวัดสระบุรี) จำเลยได้กระทำผิดในลักษณะเดียวกันซ้ำอีกภายใน ๓ ปีนับแต่วันที่ศาลพิพากษา ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๙,๘๓ ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๑๑ ลงวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๑๔ ข้อ ๑๔ ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคานาฬิกาข้อมือ ๕๐๐ บาทแก่เจ้าทรัพย์ และบังคับให้บิดาจำเลยชำระเงินค่าปรับตามข้อกำหนดดังกล่าวด้วย
จำเลยให้การปฏิเสธ ส่วนข้อเคยต้องคำพิพากษานั้นรับว่าเป็นความจริงดังฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า จำเลยได้กระทำผิดดังฟ้อง พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๙ วรรค ๔,๘๓ ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๑๑ ลงวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๑๔ ข้อ ๑๔ จำเลยเคยกระทำผิดในฐานเดียวกันนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว ซึ่งศาลได้ทำทัณฑ์บนจำเลยไว้ในกำหนดเวลาทำทัณฑ์บนจำเลยมากระทำผิดคดีนี้ซ้ำอีก ไม่เข็ดหลาย จึงควรลดโทษสถานหนัก ให้จำคุก ๑๕ ปี ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคานาฬิกาข้อมือ ๕๐๐ บาทแก่เจ้าทรัพย์ และให้บิดาจำเลยชำระเงินค่าปรับ ๑,๐๐๐ บาทตามข้อกำหนดในคำพิพากษาคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๑๘๘/๒๕๑๕ ของศาลทหารกรุงเทพ(ศาลจังหวัดสระบุรี)
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า พยานโจทก์ไม่มั่นคงพอให้เชื่อว่าจำเลยได้ร่วมกับพวกชิงเอานาฬิกาของผู้เสียหายไป พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า พยานหลักฐานโจทก์มั่นคงฟังได้ว่าจำเลยได้กระทำผิดดังฟ้อง พยานฐานที่อยู่ของจำเลยไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานโจทก์ แต่ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๙ วรรค ๔,๘๓ ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๑๑ ลงวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๑๔ ข้อ ๑๔ นั้น ยังคลาดเคลื่อนอยู่เพราะบาดแผลของผู้เสียหายที่เกิดจากถูกจำเลยกับพวกต่อย ปรากฏตามรายงานตรวจชันสูตรบาดแผลของแพทย์เพียงว่า คางข้างขวาบวม ไม่มีเขียว ไม่ช้ำ รักษาหายภายใน ๓ วัน เห็นได้ว่าเป็นบาดแผลเล็กน้อย ยังฟังไม่ได้ว่าผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ การกระทำของจำเลยจึงตองด้วยวรรคสองแห่งมาตรา ๓๓๙ มิใช่วรรคสี่ อนึ่งตามศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งให้บิดาจำเลยชำระค่าปรับด้วยนั้น เห็นว่าไม่ถูกต้อง โจทก์จะนำมาขอในคดีนี้ไม่ได้ จะต้องร้องขอในคดีก่อน และศาลจะสั่งปรับในคดีนี้ไม่ได้ โดยนัยคำพิพากษาฎีกาที่ ๑๘๗๒/๒๔๙๒ คดีระหว่างอัยการสมุทรสาครโจทก์ เด็กชายสมควร ยันต์สาคร จำเลย
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๙ วรรคสอง ๘๓ ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๑๑ ลงวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๑๔ ข้อ ๑๔ ให้ลงโทษจำคุก ๑๐ ปี ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคานาฬิกาข้อมือ ๕๐๐ บาทแก่ผู้เสียหาย คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก

Share