คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1504/2500

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตามมาตรา 251 – 55 จำคุกจำเลย 6 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยผิดตามมาตรา 249 – 53 จำคุก 2 ปี ดังนี้ เป็นแก้มาก ฎีกาในข้อเท็จจริงได้ไม่ต้องห้ามตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 218
ผู้ตายไล่ตามจะทำร้ายจำเลยเข้าไปในห้องผู้มีชื่อ แล้วมีการต่อสู้กัน จำเลยแทงผู้ตาย 5 แห่ง ดังนี้เป็นการป้องกันตัวเกินกว่าเหตุคดีเข้ามาตรา 249 – 53.
(ประชุมใหญ่)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบังอาจใช้มีดปลายแหลมเป็นศาสตราวุธแทงนายตันถึงบาดเจ็บสาหัสหลายแห่ง โดยเจตนาฆ่าให้ตาย นายตันได้ถึงแก่ความตายในวันต่อมาขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา ๒๔๙
จำเลยรับว่าทำร้ายผู้ตายจริงเพราะผู้ตายมีศาสตราวุธไล่ทำร้ายจำเลยก่อน จำเลยจึงได้ทำร้ายผู้ตายเพื่อป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าการที่จำเลยทำร้ายผู้ตายมีผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญา มาตรา ๒๕๑ ฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนา และกระทำไปโดยถูกยั่วโทษะ พิพากษาลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญา มาตรา ๒๕๑ ประกอบด้วยมาตรา ๕๕ ให้จำคุก ๖ ปี ลดฐานปราณีกึ่งหนึ่งคงจำคุก ๓ ปี
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยต้องด้วย ก.ม.ลักษณะอาญา มาตรา ๒๔๙ ฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา และเป็นการกระทำฐานป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ พิพากษาแก้จำคุกจำเลย ๒ ปี
โจทก์ฎีกาว่าการกระทำของจำเลยไม่ใช่เป็นการป้องกันตัว ขอให้ลงโทษตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม ม. ๒๕๑ ประกอบด้วย ม. ๕๕ จำคุกจำเลย ๖ ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยผิดตาม ม. ๒๔๙ ประกอบด้วย ม. ๕๓ จำคุกจำเลย ๒ ปี ดังนี้เป็นแก้มากฎีกาในข้อเท็จจริงได้ไม่ต้องห้ามตาม ป.วิ.อาญา มาตรา ๒๑๘
ศาลฎีกาเห็นว่าผู้ตายร่างใหญ่กว่าจำเลย ต่างไม่มีสาเหตุต่อกัน วันเกิดเหตุจำเลยเป็นหนี้การพนันผู้ตาย ๖ บาท ผู้ตายถือสากไล่ตามจำเลย สากหลุดมือจึงหยิบมีดข้างฝาจะเข้าแทงจำเลย มีคนมาห้ามและแย่งมีดไปได้ แต่ผู้ตายยังตามจำเลยเข้าไปในห้อง แล้วมีเสียงต่อสู้กันตึงตังจนฝาเรือนพัง แล้วปรากฏว่านายตันมีแผลถูกแทง ๕ แห่ง ศาลฎีกาเห็นว่าการที่ผู้ตายไล่ตามจะทำร้ายจำเลยเข้าไปในห้องผู้มีชื่อแล้วจำเลยจึงแทงเอา นับว่าเป็นการกระทำด้วยความจำเป็นเพื่อป้องกันตัวโดยแท้ เพราะไม่ปรากฏว่าจำเลยจะมีทางหนีต่อไปได้อีก คดีเข้ามาตรา ๒๔๙ – ๕๓ ดังคำวินิจฉัยศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน.

Share