แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีคุณภาพต่ำและกระทำการปลอมปนน้ำมันที่จำหน่าย โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยซึ่งเป็นผู้ค้าน้ำมันร่วมกันจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเบนซินชนิดพิเศษ ซึ่งมีคุณภาพต่ำกว่าคุณภาพที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดและร่วมกันกระทำการปลอมปนน้ำมันดังกล่าวด้วย เป็นฟ้องที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5) แล้ว
โจทก์มิได้บรรยายในฟ้องถึงน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีคุณภาพต่ำกว่าคุณภาพที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดไว้ในครอบครองมีปริมาณตั้งแต่ 200 ลิตรขึ้นไป เพื่อให้เข้าข้อสันนิษฐานของกฎหมายว่าจำเลยเป็นผู้กระทำการปลอมน้ำมันเชื้อเพลิงดังกล่าวเพื่อจำหน่าย โจทก์จึงจะนำสืบข้อเท็จจริงดังกล่าวหาได้ไม่ และศาลก็รับฟังข้อเท็จจริงนั้นมาปรับบทกฎหมายซึ่งมิได้บรรยายมาในฟ้องไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสามซึ่งเป็นผู้ค้าน้ำมันร่วมกันจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเบนซินชนิดพิเศษ ซึ่งมีคุณภาพต่ำกว่าคุณภาพที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด และร่วมกันกระทำการปลอมปนน้ำมันเชื้อเพลิงเบนซินชนิดพิเศษดังกล่าวเพื่อจำหน่าย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. ๒๕๒๑ มาตรา ๑๓, ๒๑, ๒๕ ตรี พระราชบัญญัติน้ำมันเชื้อเพลิง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๙
จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ร่วมกันปลอมปนน้ำมันเชื้อเพลิงเบนซินชนิดพิเศษเพื่อจำหน่ายเป็นความผิดตามฟ้องตามข้อสันนิษฐานของกฎหมาย พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ มีความผิดตามพระราชบัญญัติน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. ๒๕๒๑ มาตรา ๑๓, ๒๑, ๒๕ ตรี พระราชบัญญัติน้ำมันเชื้อเพลิง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๙ ลงโทษตามมาตรา ๒๕ ตรี ซึ่งเป็นบทหนักปรับจำเลยที่ ๑ จำคุกจำเลยที่ ๒ และปรับ แต่ให้รอการลงโทษ
จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีคุณภาพต่ำและกระทำการปลอมปนน้ำมันที่จำหน่ายดังกล่าว โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยซึ่งเป็นผู้ค้าน้ำมันร่วมกันจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเบนซินชนิดพิเศษ ซึ่งมีคุณภาพต่ำกว่าคุณภาพที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด และร่วมกันกระทำการปลอมน้ำมันดังกล่าวด้วย เป็นฟ้องที่บรรยายถึงการ่วมกันปลอมปนน้ำมันเชื้อเพลิงที่จำเลยร่วมกันจำหน่ายชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕๘ (๕) แล้ว ส่วนการกระทำอย่างไรที่เป็นการปลอมปนเป็นรายละเอียดที่โจทก์จะต้องนำสืบในชั้นพิจารณา แต่การที่โจทก์มิได้บรรยายในฟ้องถึงน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีคุณภาพต่ำกว่าคุณภาพที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดไว้ในครอบครองมีปริมาณตั้งแต่ ๒๐๐ ลิตรขึ้นไป เพื่อให้เข้าข้อสันนิษฐานของกฎหมายว่าจำเลยเป็นผู้กระทำปลอมปนน้ำมันเชื้อเพลิงดังกล่าวเพื่อจำหน่าย ตามพระราชบัญญัติน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. ๒๕๒๑ มาตรา ๒๕ ตรี พระราชบัญญัติน้ำมันเชื้อเพลิง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๙ เห็นว่าโจทก์จะนำสืบข้อเท็จจริงดังกล่าวหาได้ไม่ และศาลก็รับฟังข้อเท็จจริงนั้นมาปรับบทกฎหมายซึ่งมิได้บรรยายมาในฟ้องไม่ได้ เพราะขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙๒ พยานหลักฐานโจทก์ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันปลอมน้ำมันและจำหน่ายน้ำมันที่มีคุณภาพต่ำ (น้ำมันที่ปลอมปน)
พิพากษาแก้เป็นว่าให้ยกฟ้องจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ด้วย