คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1497/2495

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่ดินที่บุคคลมีสิทธิครอบครองอยู่ก่อน พ.ร.บ ออกโฉนดที่ดิน (ฉะบับที่ 6) พ.ศ.2479 นั้น เมื่อผู้ใดรับโอนการครอบครองที่รายนั้นไปผู้รับโอนนั้น ย่อมได้สิทธิในการครอบครองสืบต่อไป ไม่จำต้องไปขออนุญาต จับจองต่อเจ้าพนักงานอีก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยทำไม้สักในป่าอันเป็นไม้หวงห้าม และจ้างวานให้คนงานทำการแผ้วถางป่า โดยมิได้รับอนุญาติ ขอให้ลงโทษจำเลยยต่อสู่ว่า ตัดไม้ในไร่ของจำเลย ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยเห็นว่า ที่พิพาท ไม่ใช่ป่า
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีการต่อมา
ศาลฎีการ เห็นว่า ที่โจทก์ฎีกาอ้างว่า จำเลยเข้าครอบครองที่รายนี้ โดยปราศจากการอนุญาตของเจ้าหน้าที่ จึงเป็นการครอบครองที่ไม่ถูกต้องตามกฏหมาย จำเลยจึงต้องมีความผิดตามโจทก์-ฟ้องนั้น เห็นว่าที่รายนี้เป็นที่ดินที่บุคคลมีสิทธิครอบครองอยู่ก่อน พ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ ๖) พ.ศ.๒๔๗๙ เมื่อจำเลยรับโอนการครอบครองที่รายนี้มา จำเลยย่อมได้สิทธิในการครอบครองที่รายนี้มา จำเลยย่อยได้สิทธิในการครอบครองสืบต่อไป ไม่จำต้องไปขออนุญาตจับจองต่อเจ้าพนักงานอีก ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
จึงพิพากษายืน

Share