คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1495/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์รับมอบรถยนต์คันที่สองไว้จากจำเลยโดยไม่ได้สงวนสิทธิจะเรียกเบี้ยปรับจากจำเลยอีกตามสัญญา แม้จำเลยจะส่งมอบรถยนต์ล่าช้าโจทก์ก็เรียกเบี้ยปรับเพระเหตุนี้อีกไม่ได้ เมื่อยังไม่มีการจดทะเบียนเปลี่ยนสภาพรถยนต์ให้เป็นรถยนต์โดยสารส่วนบุคคลและการจดทะเบียนต้องรอกำหนดที่กรมการขนส่งทางบกนัดให้นำรถยนต์ไปตรวจสภาพ ความเสียหายจากการที่โจทก์ไม่ได้ใช้รถยนต์จึงไม่ได้อยู่ที่การส่งมอบรถยนต์ล่าช้า
โจทก์ซื้อรถยนต์ทั้งสองคันเพื่อนำไปใช้ในกิจการของวิทยาลัย ก.จึงได้มีข้อตกลงในสัญญาให้จำเลยมีหน้าที่ดำเนินการจดทะเบียนเปลี่ยนสภาพรถยนต์ให้เป็นรถยนต์โดยสารส่วนบุคคลและจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์ จำเลยจึงมีหน้าที่กระทำการที่จำเป็นทุกอย่างเพื่อให้ได้มีการจดทะเบียนตามสัญญา โจทก์ย่อมขอบังคับให้จำเลยดำเนินการดังกล่าวได้ แต่เมื่อโจทก์ต้องจัดส่งเอกสารที่จำเป็นในการจดทะเบียนให้จำเลยครบถ้วนด้วย ศาลย่อมพิพากษาโดยมีเงื่อนไขให้โจทก์ส่งเอกสารให้จำเลยครบถ้วนสมบูรณ์ได้
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยส่งมอบรถยนต์คันที่สองโดยรถยนต์ชำรุดบกพร่อง ช้ากว่ากำหนดในสัญญา ไม่จดทะเบียนเปลี่ยนสภาพรถยนต์ให้เป็นรถยนต์โดยสารส่วนบุคคลและไม่จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์เป็นของโจทก์โจทก์ไม่ได้ฟ้องว่าจำเลยไม่ส่งมอบรถยนต์คันที่สอง ณ ภูมิลำเนาของโจทก์ เรื่องสถานที่ส่งมอบรถยนต์คันที่สองจึงไม่ใช่ข้อที่ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น แม้ศาลอุทธรณ์จะวินิจฉัยให้ก็เป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
จำเลยไม่มีชื่อเป็นเจ้าของรถยนต์คันที่สอง หากเจ้าของแท้จริงของรถยนต์คันที่สองไม่ยินยอมจดทะเบียนเปลี่ยนสภาพรถยนต์ให้เป็นรถยนต์โดยสารส่วนบุคคล และจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์แล้ว การจะบังคับให้จำเลยโอนรถยนต์คันที่สองย่อมทำไม่ได้ สภาพแห่งหนี้ไม่เปิดช่องให้จำเลยโอนรถยนต์คันที่สองให้โจทก์ การบังคับคดีทำได้เพียงให้โจทก์คืนรถยนต์คันที่สองให้จำเลยและให้จำเลยคืนราคารถยนต์ให้โจทก์

Share