คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1494/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ร้องขัดทรัพย์กล่าวอ้างว่า ที่ดินมือเปล่าซึ่งโจทก์นำยึดเป็นของตน ซื้อจากจำเลยกับภริยา และครอบครองมาเกิน 1 ปี โดยให้ผู้อื่นเช่าทำนาตลอดมา โจทก์ต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยจำนองสหกรณ์ไว้ยังมิได้ไถ่ถอน จำเลยกับภริยาไม่ได้ขาย และมิได้มอบการครอบครองให้แก่ผู้ร้อง สัญญาซื้อขายทำโดยไม่สุจริตเพื่อฉ้อโกงโจทก์ เมื่อขณะโจทก์นำยึด มีผู้อื่นเช่าทำนาอยู่ โจทก์ปฏิเสธการครอบครองของผู้ร้อง ผู้ร้องย่อมมีหน้าที่นำสืบก่อน
เมื่อข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าที่พิพาทเป็นของผู้ร้องแม้จะฟังว่าเป็นของภริยาจำเลย ก็ไม่มีเหตุที่จะถอนการยึดให้ผู้ร้อง

ย่อยาว

กรณีสืบเนื่องจากโจทก์ นำยึดที่นา ๒ แปลง เพื่อขายทอดตลาดชำระหนี้ตามคำพิพากษา โดยอ้างว่าเป็นของจำเลย ผู้ร้องยื่นคำร้องขัดทรัพย์ว่า ที่นาพิพาทเป็นของผู้ร้องซื้อจากจำเลยและภริยาตามสัญญาซื้อขาย ผู้ร้องครอบครองเป็นเจ้าของ ขอให้ถอนการยึด
โจทก์ต่อสู้ว่า ที่นาพิพาทเป็นของจำเลย จำเลยจำนองสหกรณ์ไว้ยังมิได้ไถ่ถอนจำเลยกับภริยามิได้ขายและมอบการครอบครองให้ผู้ร้องสัญญาซื้อขายทำขึ้นโดยไม่สุจริตเพื่อฉ้อโกงโจทก์
ศาลชั้นต้นสั่งว่า ประเด็นหน้าที่นำสืบตกแก่ผู้ร้อง ผู้ร้องคัดค้านว่าโจทก์ต้องนำสืบก่อน
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วฟังว่า ที่นาพิพาทเป็นของจำเลย มีคำสั่งยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ที่นาพิพาทเป็นของจำเลยและภริยาฟังไม่ได้ว่าผู้ร้องซื้อที่นาพิพาทจากจำเลยกับภริยาและรับมอบมาครอบครอง
ในปัญหาหน้าที่นำสืบ ศาลฎีกาเห็นว่า ผู้ร้องอ้างว่าที่พิพาทเป็นของตน ได้ซื้อจากจำเลยกับภริยา ผู้ร้องครอบครองมาเกิน ๑ ปีโดยให้ผู้อื่นเช่าทำนาตลอดมา โจทก์ต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยจำนองสหกรณ์ไว้ยังมิได้ไถ่ถอน จำเลยกับภริยามิได้ขาย และมิได้มอบการครอบครองให้ผู้ร้อง สัญญาซื้อขายทำโดยไม่สุจริตเพื่อฉ้อโกงโจทก์ที่นาพิพาทเป็นที่ดินมือเปล่า ขณะโจทก์นำยึดมีผู้อื่นเช่าทำนาอยู่เมื่อผู้ร้องกล่าวอ้างว่าเป็นผู้ครอบครอง แต่โจทก์ปฏิเสธ หน้าที่นำสืบก่อนย่อมตกแก่ผู้ร้อง
ปัญหาที่ผู้ร้องฎีกาว่า ที่พิพาท ๑ แปลงใน ส.ค.๑ ลงชื่อภริยาจำเลยซึ่งมิได้จดทะเบียนสมรสและปกครองนานั้นมาเป็นสัดส่วน ก็ชอบที่จะแยกส่วนของภริยาจำเลยให้เป็นของผู้ร้องตามสัญญาซื้อขายระหว่างผู้ร้องกับภริยาจำเลยนั้น
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าผู้ร้องซื้อที่พิพาทและรับมอบมาทำการครอบครอง เมื่อมีพิพาทมิใช่ของผู้ร้อง ย่อมไม่มีเหตุที่จะถอนการยึดให้ผู้ร้อง
พิพากษายืน

Share