แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อจำเลยที่ 1 ให้การแต่เพียงว่าโจทก์ทั้งสามจะเป็นบิดามารดาผู้ปกครองเด็กทั้งสามที่บาดเจ็บหรือไม่ ไม่รับรอง และจำเลยที่ 2 มิได้ประมาท ดังนั้น ฎีกาของจำเลยที่ 1 ข้อที่ว่าโจทก์จะต้องนำสืบให้ชัดแจ้งว่าการกระทำของจำเลยที่ 2 ได้กระทำไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 1 ด้วยนั้น จึงเป็นฎีกานอกประเด็นศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า โจทก์ที่ 1 ที่ 2 และที่ 3เป็นผู้ใช้อำนาจปกครองเด็กชาย ท. เด็กชาย ภ.และเด็กชาย ป.ตามลำดับ จำเลยที่ 2 เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 1 เมื่อวันที่ 3มิถุนายน 2529 จำเลยที่ 2 ขับรถยนต์ของจำเลยที่ 1 ไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 1 โดยประมาทเลินเล่อชนเด็กชาย ท. เด็กชายภ. และเด็กชาย ป. ได้รับบาดเจ็บขาหักทั้งสามคน ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชำระเงินให้แก่โจทก์จำนวน 223,930บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยที่ 1 ให้การว่า โจทก์ทั้งสามจะเป็นบิดามารดาผู้ปกครองเด็กชาย ท. เด็กชาย ภ. และเด็กชาย ป. หรือไม่ ไม่รับรองจำเลยที่ 2 มิได้ประมาท หากจำเลยที่ 2 มีความผิด จำเลยที่ 1ก็ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายของโจทก์ที่ 1 ไม่เกิน 5,000 บาทโจทก์ที่ 2 และที่ 3 ไม่เกินคนละ 1,500 บาท ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินให้โจทก์ที่ 1 จำนวน 44,695 บาท โจทก์ที่ 2 จำนวน 39,750 บาท และโจทก์ที่ 3 จำนวน 43,485 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินแต่ละจำนวนนับตั้งแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 1 ฎีกาว่าโจทก์จะต้องนำสืบให้ชัดแจ้งว่าการกระทำของจำเลยที่ 2 ได้กระทำไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 1 ด้วยนั้น เมื่อจำเลยที่ 1 ให้การแต่เพียงว่าโจทก์ทั้งสามจะเป็นบิดามารดาผู้ปกครองเด็กทั้งสามที่บาดเจ็บหรือไม่ไม่รับรอง และจำเลยที่ 2 มิได้ประมาท หากแต่เด็กทั้งสามคนเดินล้ำเข้ามาในช่องทางเดินรถกีดขวางการจราจรในขณะฉุกเฉินสุดวิสัยที่จำเลยที่ 2 จะหลบหลีกหรือหยุดรถได้ทัน ดังนั้น คดีระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 จึงไม่มีประเด็นพิพาทว่า ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 2 ขับรถไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 1 หรือไม่ ฎีกาของจำเลยที่ 1 จึงเป็นฎีกานอกประเด็น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
พิพากษายืน