คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 149/2536

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษา ไม่ได้กระทำการฝ่าฝืนบทบัญญัติว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษา โดยมีบุคคลภายนอกเข้าสู้ราคาเป็นการชอบด้วยกฎหมาย เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดี เห็นว่ามีผู้เข้าสู้ราคาสูงกว่าราคาที่ประเมินไว้ และไม่มีพฤติการณ์ส่อให้เห็นว่าการประมูลทรัพย์ที่ขายทอดตลาดรายนี้ เป็นการสมรู้กันกดราคาซื้อจึงมีคำสั่งอนุญาตให้ขายให้แก่ผู้สู้ราคาสูงสุดนั้น ต้องถือว่าการขายทอดตลาดเป็นอันสมบูรณ์ชอบด้วยกฎหมายแล้ว จำเลยจะมาขอให้ยกเลิกการขาย หรือมารื้อฟื้นให้ศาลสั่งขายทอดตลาดใหม่โดยอ้างว่าขายได้ราคาต่ำไปกว่าความเป็นจริงไม่ได้.

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ให้แก่โจทก์จำนวน 131,925 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย แต่จำเลยไม่ชำระโจทก์จึงนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินโฉนดเลขที่ 90618,90619, 90620 และ 90621 พร้อมสิ่งปลูกสร้าง ตำบลลาดยาว(บางซื่อฝั่งเหนือ) อำเภอบางเขน (บางซื่อ) กรุงเทพมหานครเพื่อขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ให้โจทก์ โดยประเมินราคาทรัพย์1,425,000 บาท
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้จำนองของจำเลยคดีนี้ตามคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ 3196/2530 ของศาลชั้นต้นซึ่งถึงที่สุดแล้ว โดยพิพากษาให้จำเลยกับพวกร่วมกันชำระหนี้ให้แก่ผู้ร้องจำนวน 3,932,602.84 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย หากไม่ชำระหนี้ให้ยึดที่ดินที่โจทก์นำยึดไว้ในคดีนี้ทั้งสี่แปลงพร้อมสิ่งปลูกสร้างออกขายทอดตลาดชำระหนี้ให้แก่ผู้ร้อง ถ้ายังไม่พอชำระหนี้ก็ให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยกับพวกชำระหนี้ให้แก่ผู้ร้องจนครบ ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีขายที่ดินดังกล่าวโดยปลอดจำนองนำเงินมาชำระหนี้ให้แก่ผู้ร้องก่อนเจ้าหนี้อื่น
ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ประกาศขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดโดยปลอดจำนองและให้ผู้ร้องได้รับเงินจากการขายทอดตลาดก่อนเจ้าหนี้รายอื่นตามคำร้อง
ต่อมาผู้ร้องยื่นคำร้องขอเข้าดำเนินการบังคับคดีแทนโจทก์อ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีประกาศขายทอดตลาด 2 ครั้งแต่จำเลยขอให้งดการขายทอดตลาดทั้งสองครั้ง โดยอ้างว่าได้ผ่อนชำระหนี้ให้แก่โจทก์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้ร้องดำเนินการบังคับคดีแทนโจทก์
ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2532 ราคา 3,100,000 บาท
จำเลยยื่นคำร้องว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทรัพย์ที่ยึดต่ำกว่าราคาเป็นจริง ขอให้ขายทอดตลาดใหม่
ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “เห็นว่าที่จำเลยให้เหตุผลคัดค้านในการที่เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์ให้แก่ผู้ซื้อทรัพย์ราคาสูงสุดในราคา 3,100,000 บาท แต่เพียงว่าขายได้ราคาต่ำไปเพราะทรัพย์ดังกล่าวธนาคารผู้ร้องตีราคาจำนองเมื่อปี 2526ในราคา 2,500,000 บาท โดยตีราคาเพียง 60 เปอร์เซ็นต์ของราคาที่แท้จริงในขณะนั้น แต่ปัจจุบันล่วงเลยมานานถึง 4 ปี ราคาทรัพย์พร้อมสิ่งปลูกสร้างมีราคาสูงขึ้นมาประมาณ 5,000,000 บาท นั้นเป็นการกล่าวอ้างขึ้นมาลอย ๆ หาได้แสดงหลักฐานอ้างอิงให้ศาลเห็นว่าขายได้ราคาต่ำกว่าความเป็นจริงอย่างไร เมื่อได้ความว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ขายทอดตลาดทรัพย์รายนี้ของจำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาไม่ได้กระทำการฝ่าฝืนบทบัญญัติว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษา โดยมีบุคคลภายนอกเข้าสู้ราคาเป็นการชอบด้วยกฎหมายเมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีเห็นว่ามีผู้สู้ราคาสูงกว่าราคาที่ประเมินไว้ และไม่มีพฤติการณ์ส่อให้เห็นว่าการประมูลซื้อทรัพย์ที่ขายทอดตลาดรายนี้เป็นการสมรู้กันกดราคาซื้อ จึงมีคำสั่งอนุญาตให้ขายให้แก่ผู้สู้ราคาสูงสุดนั้นต้องถือว่าการขายทอดตลาดเป็นสมบูรณ์ชอบด้วยกฎหมายแล้ว จำเลยจะมาขอให้ยกเลิกการขายหรือมารื้อฟื้นให้ศาลสั่งขายทอดตลาดใหม่โดยอ้างว่าขายได้ราคาต่ำไปกว่าความเป็นจริง เพราะปัจจุบันทรัพย์มีราคาสูงขึ้นมากประมาณ 5,000,000 บาทไม่ได้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำร้องนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.

Share