แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เจ้าของทำสัญญาให้ผู้อื่นเช่าที่ดินเพื่อรื้อตึกแถวในที่ดินนั้นแล้วสร้างใหม่ ได้มอบที่ดินและตึกแถวให้แล้วซึ่งตามสัญญาไม่ใช่เป็นการมอบกรรมสิทธิ์ตึกแถวให้ ตึกแถวนั้นมีผู้เช่าอยู่อาศัยจากเจ้าของเจ้าของจึงบอกเลิกการเช่าและงดเก็บค่าเช่า แต่ผู้ที่อยู่ในตึกแถวก็ยังไม่ออกไป แม้ดังนี้ก็ไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่เจ้าของจะได้รับยกเว้นไม่เสียภาษีโรงเรือน
ย่อยาว
ได้ความว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินตามโฉนด 7 โฉนดพร้อมตึกแถวรวม 101 ห้อง ซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินนั้น โจทก์สัญญาให้จำเลยเช่าที่ดินทั้ง 7 โฉนด เพื่อรื้อตึกแถวเดิมแล้วก่อสร้างใหม่ จำเลยได้รับมอบที่ดินพร้อมด้วยตึกแถว 101 ห้องจากโจทก์ในวันทำสัญญาคือวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2508โดยผู้เช่าเดิมยังคงอยู่ในตึกแถวนั้น โจทก์เก็บค่าเช่าจากผู้เช่าเหล่านั้นจนถึงเดือนมกราคม 2508 ไม่ได้เก็บค่าเช่าเดือนกุมภาพันธ์ 2508 และเดือนต่อ ๆ มาอีก โดยโจทก์ได้บอกเลิกสัญญาเช่าต่อผู้เช่าเดิมตั้งแต่เดือนมีนาคม 2508 จำเลยประเมินเรียกเก็บภาษีโรงเรือนตึกแถว 101 ห้องนั้นทั้งปี ตั้งแต่มกราคมถึงธันวาคม 2508 โจทก์เห็นว่าควรเสียภาษีเดือนมกราคม 2508 เพียงเดือนเดียว อีก 11 เดือนเป็นเงิน 19,443 บาท 81 สตางค์ไม่ต้องเสีย เพราะจำเลยได้รับมอบกรรมสิทธิ์ตึกแถว 101 ห้องไปจากโจทก์ตามสัญญาแล้ว แต่จำเลยยืนยันว่าได้ประเมินเรียกเก็บภาษีจากโจทก์ตลอดทั้งปีเป็นการชอบด้วยกฎหมายแล้ว
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามสัญญาเช่าไม่มีข้อใดที่ระบุว่าโจทก์ได้โอนกรรมสิทธิ์ตึกแถว 101 ห้องให้แก่จำเลย ตามข้อ 1 ในสัญญานี้มีความหมายแต่เพียงว่า จำเลยรับมอบที่ดินและอาคารไปตามสัญญาเช่าเพื่อรื้ออาคารเดิมลงแล้วปลูกสร้างอาคารใหม่เท่านั้น หาใช่เป็นการรับมอบกรรมสิทธิ์อาคารไม่และความในวรรค 2 ของสัญญาข้อนี้ยังระบุว่าโจทก์จะมีหนังสือบอกเลิกการเช่าหรือบอกกล่าวให้บุคคลผู้อยู่ออกจากที่ เป็นการบ่งชัดว่าโจทก์ยังเป็นผู้ให้เช่าและเป็นเจ้าของตึกแถวรายนี้อยู่ จึงฟังว่าตึกแถว 101 ห้องยังเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ตึกแถวดังกล่าวไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีโรงเรือนตามพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2475 มาตรา 9, 10 (และพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดินแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2475 มาตรา 3) เพราะเป็นทรัพย์สินซึ่งนำออกจัดหาผลประโยชน์ โดยยังมีผู้เช่าอยู่อาศัยไม่ยอมออกไป ไม่ใช่เจ้าของอยู่เองหรือปิดไว้หรือให้คนเฝ้า การที่โจทก์เป็นเจ้าของตึกแถวดังกล่าวได้บอกเลิกการเช่ากับผู้เช่าและงดเก็บค่าเช่าแล้ว แต่ผู้เช่ายังไม่ยอมออกไปเช่นนี้ หาเป็นเหตุที่จะได้รับยกเว้นในการเสียภาษีโรงเรือนไม่ ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 1133/2494
ฎีกาโจทก์นอกนั้นเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น และไม่ใช่ปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน จึงไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายืน