แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พฤติการณ์ที่ถือว่าสามีได้ให้สัตยาบันโมฆียะกรรม
ภรรยากู้เงินและเอาที่ดินสินบริคณห์ไปให้เจ้าหนี้ทำต่างดอกเบี้ย โดยสามีไม่รู้เห็นครั้นไม่มีเงินชำระ ภรรยาบอกกับเจ้าหนี้ว่าไม่มีเงินชำระ ขอมอบให้ทำต่อไป สามีไปด้วยไม่คัดค้านเจ้าหนี้ได้ทำต่างดอกเบี้ยมา 5 ปีแล้ว ดังนี้ถือว่าสามีได้ให้สัตยาบันแล้ว หมดสิทธิที่จะฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรม
ย่อยาว
ภรรยาโจทก์เอานาซึ่งเป็นสินบริคณห์ไปมอบให้จำเลยทำต่างดอกเบี้ยเงินกู้ ครบกำหนดไถ่ไม่มีเงิน โจทก์สามีได้มากับภรรยาๆ บอกจำเลยให้ทำต่อไป โจทก์ผู้เป็นสามีไม่คัดค้านได้ความดังนี้ศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์ เพราะโจทก์ได้ให้สัตยาบันสัญญานั้นแล้ว
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้โจทก์ชนะคดี
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าแม้ภรรยาโจทก์จะกู้เงินและนำที่นาไปวางให้จำเลยทำต่างดอกเบี้ยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากโจทก์ผู้เป็นสามีก็ตาม แต่ในตอนหลังโจทก์ได้ไปกับภรรยาเพื่อขอมอบมาให้จำเลยทำต่อไปและโจทก์ไม่คัดค้าน และจำเลยได้ทำมา ๕ ปีกว่าแล้วโจทก์จึงฟ้องคดีนี้ ตามพฤติการณ์ถือว่าโจทก์ได้ให้สัตยาบันแก่นิติกรรมรายนี้แล้ว จึงสมบูรณ์มาแต่เริ่มแรกตามประมวลแพ่งฯ ม.๑๓๙ โจทก์จึงหมดสิทธิฟ้องคดีนี้ พิพากษากลับศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น
