แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ตายมีปืนและมีดปลายแหลมเป็นอาวุธไปแอบคอยดักทำร้ายจำเลย พอจำเลยมาถึงผู้ตายใช้ปืนยิงจำเลยถูกเฉียดศีรษะมีบาดแผล จำเลยจึงใช้พร้าฟันผู้ตาย ผู้ตายชักมีดแทงจำเลยแล้วเข้ากอดปล้ำแย่งมีดกัน แล้วจำเลยได้ใช้มีดพร้าฟันผู้ตายไปหลายที เช่นนี้ เป็นกรณีที่ผู้ตายเป็นฝ่ายก่อเหตุขึ้นก่อน โดยใช้ปืนยิงจำเลย จำเลยจึงใช้พร้าฟัน แม้ผู้ตายจะล้มลงไปก็จริง กรณีที่กำลังพัวพันกันอยู่เช่นนั้น จำเลยอาจเกรงว่าผู้ตายจะใช้ปืนหรือใช้มีดแทงอีกก็เป็นได้ จึงจำเป็นต้องใช้พร้าฟันไปอีกหลายที ดังนี้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตนให้พ้นอันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายที่ใกล้จะถึง การกระทำของจำเลยพอสมควรแก่เหตุ เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๑๐ เวลากลางวัน จำเลยได้ใช้มีดพร้าและมีดปลายแหลมฟันแทงทำร้ายนายน้อม ชูแก้ว โดยเจตนาฆ่า และนายน้อมได้ถึงแก่ความตายเพราะพิษบาดแผลที่จำเลยทำร้าย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ริบมีดและพร้าของกลาง
จำเลยให้การว่า กระทำไปเพื่อป้องกันพอสมควรแก่เหตุ หากเกินกว่าเหตุไปบ้างก็ด้วยบันดาลโทสะ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยทำร้ายผู้ตาย เพื่อให้ตนเองพ้นจากอันตรายที่ใกล้จะถึงและไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงโดยวิธีอื่นได้ และตนเองมิได้ก่อให้เกิดภยันตรายนั้นขึ้น การกระทำของจำเลยไม่เป็นการเกินสมควรแก่เหตุ จำเลยไม่ควรต้องรับโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๖๗ พิพากษาว่า จำเลยกระทำไปเพื่อป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ไม่มีความผิด ยกฟ้อง พร้าของกลางคืน มีดให้ริบ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ จำคุก ๒๐ ปี ริบพร้าของกลาง มีดคืนเจ้าของ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ผู้ตายถูกจำเลยทำร้ายถึงแก่ความตายเนื่องจากผู้ตายโกรธจำเลยที่ไปบอกให้ผู้ตายไปชำระเงินที่อำเภอตามที่บิดาจำเลยสั่งมา จนกล่าวคำอาฆาตว่า จะเอาปืนไปยิงจำเลย และต่อมาในเย็นวันนั้น ผู้ตายมีปืนและมีดไปดักทำร้ายจำเลย พอจำเลยมา ผู้ตายใช้ปืนยิงจำเลยก่อน กระสุนปืนถูกเฉียดศีรษะจำเลยเป็นบาดแผล จำเลยจึงใช้มีดพร้าฟันผู้ตาย ผู้ตายชักมีดแทงจำเลยแล้วเลยกอดปล้ำและแย่งมีดกัน แล้วจำเลยก็ใช้พร้าฟันผู้ตายไปหลายที ดังที่นายใจพยานโจทก์แลเห็นเช่นนั้น เห็นได้ว่าเป็นกรณีพัวพันกัน โดยผู้ตายเป็นฝ่ายก่อเหตุขึ้นก่อนคือใช้ปืนยิงจำเลย จำเลยจึงใช้พร้าฟัน แม้ผู้ตายจะล้มลงไปก็จริง กรณีที่กำลังพัวพันกันอยู่เช่นนั้นจำเลยอาจเกรงว่าผู้ตายจะใช้ปืนยิงอีกหรือใช้มีดแทงอีกก็เป็นได้ จึงจำเป็นต้องใช้พร้าฟันไปอีกหลายที การกระทำของจำเลยดังกล่าว เป็นการกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตนให้พ้นอันตราย ซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงการกระทำของจำเลยพอสมควรแก่เหตุ เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๖๘
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ยกฟ้องโจทก์