คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1477/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คนที่มีสัญชาติไทย แต่ไปอยู่ต่างประเทศเสียตั้งแต่เล็ก ๆ ครั้นโตขึ้นจึงเดินทางเข้ามาในประเทศไทย พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองไม่ยินยอมให้ผู้นั้นอาศัยอยู่ในประเทศไทย โดยถือว่าเป็นคนต่างด้าว ดังนี้ ผู้นั้นมีสิทธิฟ้องกระทรวงมหาดไทยเป็นจำเลย ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองดังกล่าวได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องกล่าวว่า โจทก์เป็นบุคคลเกิดที่ประเทศไทย แต่ไปอยู่ประเทศจีนเสียแต่เล็ก ครั้นเมื่อวันที่ ๒๕ เมษายน ๒๔๙๔ โจทก์เดินทางกลับเข้ามายังประเทศไทย พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองไม่ยินยอมให้โจทก์อาศัยอยู่ในประเทศไทยโดยถือว่าเป็นคนต่างด้าว จึงฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่า โจทก์เป็นบุคคลมีสัญชาติไทยและให้เพิกถอนคำสั่งเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่สั่งให้โจทก์ออกจากประเทศไทย
จำเลยตัดฟ้องว่า กระทรวงมหาดไทยจำเลยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง และต่อสู้ว่าโจทก์ไม่ใช่คนไทย และว่าโจทก์ควรจะทำเป็นคำร้อง ไม่ใช่มาฟ้อง
ศาลแพ่งพิจารณา แล้วเห็นว่า กองตรวจคนเข้าเมืองเป็นกองขึ้นในกรมตำรวจ สังกัดกระทรวงมหาดไทยตามระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยได้ ส่วนข้อเท็จจริงฟังว่าโจทก์เป็นคนไทย จึงพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่สั่งให้โจทก์ออกไปจากประเทศไทย
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อฎีกาที่ว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยนั้น เห็นว่าเมื่อสิทธิของโจทก์ถูกจำเลยโต้แย้งถึงแก่ไม่ให้โจทก์ถือสัญชาติเป็นไทยเช่นนี้ โจทก์ย่อมมีสิทธินำคดีมาฟ้องต่อศาลได้ตาม ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา ๕๕ ส่วนของข้อเท็จจริงคงฟังว่าโจทก์เป็นคนมีสัญชาติไทย จึงพิพากษายืน

Share