คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1475/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้โจทก์ที่ 1 จะขายตึกที่ให้จำเลยเช่าอย่างสังหาริมทรัพย์ก่อนครบกำหนดเวลาให้จำเลยส่งมอบตึกคืน แต่เมื่อที่ดินยังเป็นของโจทก์ที่ 1 อยู่ โจทก์ที่ 1 ยังมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้
คำให้การที่ว่าจำเลยเสียเงินค่าตอบแทนให้โจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 1 ให้คำมั่นว่าจะให้จำเลยได้เช่าตึกมีกำหนดชั่วชีวิตจำเลย ซึ่งจำเลยถือว่าเป็นสัญญาต่างตอบแทน โจทก์ที่ 1 ต้องปฏิบัติตาม เป็นคำให้การที่ไม่ชัดว่าเงินนั้นเป็นเงินค่าอะไร จำนวนเท่าใด แต่พอทำให้เข้าใจได้ว่าเงินซึ่งจำเลยให้แก่โจทก์ที่ 1 เป็นเงินกินเปล่า จึงไม่เป็นสัญญาต่างตอบแทน

ย่อยาว

โจทก์ทั้งสองฟ้องจำเลยต่างคนกันเป็นคดี ๑๐ สำนวน ศาลได้รวมพิจารณาพิพากษาคดีทั้ง ๑๐ นี้
โจทก์ฟ้องคดีทั้ง ๑๐ มีใจความอย่างเดียวกันว่าจำเลยทั้ง ๑๐สำนวนเช่าตึกของโจทก์ที่ ๑ เพื่อค้าขาย โดยไม่มีกำหนดเวลาโจทก์ที่ ๑ ได้บอกเลิกสัญญาเช่าและกำหนดเวลาให้จำเลยส่งมอบตึกแถว ก่อนถึงกำหนดนั้น โจทก์ที่ ๑ ได้ขายตึกแถวให้โจทก์ที่ ๒ โดยให้โจทก์ที่ ๒ รื้อเอาไป เมื่อพ้นกำหนดดังกล่าวแล้ว จำเลยทั้งหมดไม่ส่งตึกที่เช่าคืน ขอให้ขับไล่และใช้ค่าเสียหายเท่าค่าเช่า
จำเลยทั้ง ๑๐ สำนวนให้การและฟ้องแย้งอย่างเดียวกัน มีใจความว่า จำเลยได้เสียเงินค่าตอบแทนให้โจทก์ที่ ๑ โดยโจทก์ที่ ๑ ให้คำมั่นว่าจะให้จำเลยได้เช่าตึกพิพาทตลอดชีวิตของจำเลยอันเป็นสัญญาต่างตอบแทน เมื่อโจทก์ที่ ๑ ขายตึกพิพาทให้โจทก์ที่ ๒ แล้ว โจทก์ที่ ๑ ก็ไม่มีอำนาจฟ้อง ส่วนฟ้องแย้งมีความว่า ขณะบอกเลิกสัญญาเช่า โจทก์ที่ ๑ กับจำเลยทุกคนตกลงกันว่า จำเลยจะออกทุนสร้างตึก ๓ ชั้นในที่เดิมแล้วยกกรรมสิทธิ์ให้โจทก์ที่ ๑ ฝ่ายโจทก์ที่ ๑ จะยอมให้จำเลยเช่าตึกนี้ ๑๐ ปี ขอให้บังคับโจทก์ที่ ๑ ตามสัญญานี้
โจทก์ทั้งสองให้การปฏิเสธฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นเผชิญสืบตึกพิพาทแล้ว งดสืบพยานทั้งสองฝ่าย และพิพากษาให้โจทก์ชนะเต็มตามฟ้อง และให้ยกฟ้องแย้ง
จำเลยทั้งหมดอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งหมดฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ที่ ๑ ตกลงขายสิ่งปลูกสร้างให้โจทก์ที่ ๒ รื้อไป และที่ดินยังคงเป็นของโจทก์ที่ ๑ อยู่ เมื่อจำเลยไม่ยอมออกจากตึกพิพาทซึ่งปลูกอยู่บนที่ดินนี้ โจทก์ที่ ๑ ย่อมมีอำนาจฟ้อง
คำให้การของจำเลยที่ว่าจำเลยได้ให้เงินค่าตอบแทนโจทก์ที่ ๑ โจทก์ที่ ๑ ให้คำมั่นว่าจะให้จำเลยเช่าตึกพิพาทตลอดชีวิตจำเลย อันเป็นสัญญาต่างตอบแทนนั้น เป็นคำให้การที่ไม่ชัดว่าจำเลยให้เงินค่าอะไร เป็นจำนวนเท่าใด แต่พอจะเข้าได้ว่าเป็นเงินกินเปล่า จึงไม่เป็นสัญญาต่างตอบแทน
พิพากษายืน

Share