แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยนำข้าวสาร 100 กระสอบ ออกนอกราชอาณาจักร ตามฟ้องข้อ ก.โจทก์กล่าวว่าราคา 10274 บาท 40 สตางค์ แต่ท้ายฟ้องขอให้ริบข้าว100 กระสอบถ้านำมาริบไม่ได้ ขอให้จำเลยใช้ราคา 1705 บาท 92 สตางค์ เมื่อตามท้องสำนวนไม่ปรากฎว่าราคาข้าวที่ถูกต้องต่อความจริงเป็นราคาอย่างมากหรืออย่างน้อย ศาลจำต้องถือราคาข้าว 100 กระสอบที่ขอมาในฟ้องว่า 1705 บาท 92 สตางค์
จำเลย 6 คนต้องโทษปรับรวมกันเป็นเงิน 6823 บาท 68 สตางค์ เมื่อจำเลยจะต้องจำแทนค่าปรับ ให้แบ่งกันจำแทนคนละ 2 เดือน
ข้าวของกลางในคดีที่นำออกไปนอกราชอาณาจักร์โดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องริบทั้งสิ้น
(อ้างฎีกา 503/2492)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยกับพวกสมคบกันใช้เรือถ่อบรรทุกข้าวสาร ๑๐๐ กระสอบข้ามแม่น้ำโขงออกไปจำหน่ายที่ฝั่งอินโดจีนฝรั่งเศส โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และเสียค่าอากรผ่านด่านศุลกากรตามกฎหมาย จำเลยสมคบกันนำเรือต่อที่ได้จดทะเบียนตามกฎหมายออกไปนอกราชอาณาจักร์ โดยไม่ได้รับอนุญาตขอให้ลงโทษและริบข้าวสาร ๑๐๐ กระสอบ ถ้าจำเลยนำมาให้ริบไม่ได้ ให้ใช้ราคา ๑๗๐๕ บาท ๙๒ สตางค์ จำเลยทุกคนปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทุกคนมีผิดฐานนำข้าวออกนอกราชอาณาจักร์ โดยไม่ได้รับอนุญาตและเสียค่าอากรกะทงหนึ่ง และผิดฐานนำเรือออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกกะทงหนึ่งให้รวมกะทงโทษจำคุกนายเคนจำเลย ๑ ปี ๖ เดือน จำเลยอื่นจำคุกคนละ ๖ เดือน กับปรับจำเลยทุกคนเป็นเงิน ๔ เท่าของราคาข้าว และค่าอากรรวมเงิน ๔๒๘๒๓ บาท ๖๓ สตางค์ ข้าวของกลางให้ริบ ถ้านำมาให้ริบไม่ได้ ให้ใช้ราคา ๑๐๒๗๔ บาท ๔๐ สตางค์ ถ้าจะจำแทนค่าปรับให้จำแทนคนละ ๑ ปี ถ้าจะจำแทนสำหรับโทษริบทรัพย์ ให้จำคุกคนละ ๖ เดือน เรือของกลางคืนเจ้าทรัพย์ ศาลอุทธรณ์แก้ว่า จำเลยมีผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร ๒๔๖๙ มาตรา ๒๗ ที่แก้ไข พ.ศ.๒๔๙๐ ฉะบับที่ ๑๑ มาตรา ๓ ซึ่งเป็นบทหนัก ให้จำคุกและปรับตามศาลชั้นต้น ถ้าจะต้องจำแทนค่าปรับ ให้แบ่งกันจำแทนคนละ ๒ เดือน ให้ยกคำขอที่ให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ควบคุมยานพาหนะทางน้ำในภาวะคับขันนั้นเพราะได้บัญญัติให้ยกเลิก ที่ขอให้ริบข้าว ๑๐๐ กระสอบให้ยกเสีย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้าว๑๐๐ กระสอบตามฟ้องข้อ ก.โจทก์กล่าวว่า ราคา ๑๐๒๗๔ บาท ๔๐ สตางค์ แต่ท้ายฟ้องโจทก์ขอให้ริบข้าว ๑๐๐ กระสอบ ถ้านำมาให้ริบไม่ได้ ให้ใช้ราคา ๑๗๐๕ บาท ๙๒ สตางค์ น่าจะเป็นเพราะพิมพ์ฟ้องพลั้นเผลอได้ก็จริงอยู่ แต่ไม่ปรากฎในท้องสำนวนว่าราคาข้าวที่ถูกต้องตรงกัน ดังนี้ จำเลยจะต้องถือเอาราคาข้าว ๑๐๐ กระสอบตามโจทก์ขอมาในฟ้องว่า ๑๗๐๕ บาท ๙๒ สตางค์ เมื่อคำนวณ ๔ เท่าของราคาข้าว ก็ย่อมลดน้อยลงส่วนปัญหาแยกจำเลยแทนค่าปรับนั้น ศาลอุทธรณ์ชี้ขาดถูกต้องแล้วแต่ที่ศาลอุทธรณ์ไม่ริบข้าว ๑๐๐ กระสอบ ยังไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาได้พิพากษาให้ริบไว้เป็นแบบอย่างแล้ว
พิพากษาแก้ ให้ปรับจำเลยทุกคน เป็นเงิน ๖๘๐๓ บาท ๖๘ สตางค์ ให้ริบข้าวของกลาง ถ้าส่งข้าวไม่ได้ ให้จัดการตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๙ นอกจากนี้ยืนตาม