แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พฤติการณ์ที่ถือว่าโจทก์ประวิงคดีให้ชักช้า อันเป็นเหตุให้ศาลไม่อนุญาตให้เลื่อนการนั่งพิจารณา
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ตกลงเข้าหุ้นส่วนกับจำเลย หุ้นส่วนมีกำไรแต่จำเลยปกปิดและไม่ยอมแบ่งกำไรให้โจทก์อันเป็นการฉ้อโกงโจทก์ขอให้พิพากษาเลิกหุ้นส่วนและชำระบัญชี
จำเลยต่อสู้ว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมและไม่เคยเป็นหุ้นส่วนกับโจทก์
ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานโจทก์ นัดที่ 1 และที่ 2 ไม่ได้สืบพยานโจทก์เพราะโจทก์ขอเลื่อนอ้างว่าป่วย นัดที่ 3 ทนายโจทก์เข้าเบิกความเป็นพยานโจทก์ 1 ปากแล้วขอเลื่อน นัดที่ 4 และนัดที่ 5 โจทก์ขอเลื่อนอ้างว่าป่วย ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องขอเลื่อนของโจทก์ นัดที่ 5 และถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบ ให้นัดสืบพยานจำเลยต่อไป เมื่อสืบพยานจำเลยแล้วศาลชั้นต้นเห็นว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ทั้งในข้อเท็จจริงโจทก์ก็นำสืบไม่ได้ว่าโจทก์จำเลยเป็นหุ้นส่วนกันเพื่อกระทำกิจการอันใดที่โจทก์จะมาขอให้ศาลสั่งเลิกห้างหุ้นส่วนได้ พิพากษายกฟ้องโจทก์ ให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความ 200 บาท แทนจำเลย
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม และโจทก์ขอเลื่อนสืบพยานก็มีเหตุอันสมควร ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบพิพากษายกคำสั่งและคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้พิจารณาพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การดำเนินคดีของโจทก์ โจทก์ประสงค์จะอ้างตัวเองเข้าเบิกความเป็นพยานปากแรก แต่โจทก์ก็ไม่มาเบิกความได้แต่ขอเลื่อนคดีอ้างว่าป่วยตั้งแต่นัดแรก นัดที่ 2 ว่าไปป่วยอยู่ที่หาดใหญ่ ทนายโจทก์แถลงต่อศาลว่านัดหน้าจะไม่ขอเลื่อนอีกไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ แต่แล้วก็คงมีแต่ทนายโจทก์เข้าเบิกความเป็นพยานปากเดียวและไม่ปรากฏว่าตัวโจทก์ได้มาศาลในวันนั้น ทั้งพยานเอกสารที่อ้างจากจำเลยซึ่งโจทก์ว่าจำเป็นที่ตัวโจทก์จะต้องเบิกความประกอบเอกสารเหล่านั้น โจทก์ก็ไม่ได้ขอคำสั่งศาลเรียกเอกสารเหล่านั้นเสียก่อนนัดสืบพยานโจทก์นัดแรก เพิ่งขอคำสั่งศาลเรียกภายหลังที่ขอเลื่อนคดีนัดที่ 2 แล้ว และปรากฏว่าจำเลยไม่อยู่ไปประเทศอังกฤษ อันเป็นเหตุที่โจทก์อ้างว่ายังไม่ได้พยานเอกสารที่อ้างนั้นมา ในการอนุญาตให้เลื่อนคดีนัดที่ 4 ศาลได้จดรายงานกระบวนพิจารณาชี้ให้เห็นว่าพฤติการณ์แห่งคดี โจทก์ประวิงคดีไว้แล้ว ทั้งได้กำชับว่านัดหน้าศาลจะไม่ให้โจทก์เลื่อนคดีไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ ทั้งสิ้น แต่แล้วโจทก์ก็มายื่นคำร้องขอเลื่อนคดีในนัดที่ 5 อีก แสดงว่าโจทก์ไม่พยายามดำเนินคดีให้ลุล่วงไปโดยปฏิบัติตามคำสั่งกำชับของศาล ถือเอาแต่เหตุความสะดวกสบายของตัวโจทก์เองเป็นสำคัญมาอ้างขอให้ศาลเลื่อนคดีไปเรื่อย ๆ ไม่ขอคำสั่งศาลเรียกเอกสารมาก่อนวันนัด พยานอื่น ๆ ส่งหมายได้แล้วพยานไม่มาศาลก็ไม่พยายามติดต่อเอาตัวมาหรือขออำนาจศาลบังคับ ในนัดที่ 5 ศาลได้สั่งไว้แล้วว่าจะไม่ยอมให้โจทก์ขอเลื่อนคดีอีกไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ แต่โจทก์ก็ยังขืนร้องขอเลื่อนคดีและไม่มีพยานอื่นมาศาลด้วย จะมีเหตุขัดข้องอย่างไรก็ไม่แถลงให้ศาลทราบ เมื่อศาลได้สั่งไว้แต่นัดก่อนแล้วว่าจะไม่ให้โจทก์เลื่อนคดีอีก หากมีเหตุจำเป็นเรื่องเจ็บป่วยจริง ๆ โจทก์ก็ชอบที่จะแถลงขอให้ศาลเดิมเผชิญสืบตัวโจทก์ยังโรงพยาบาลได้ และเมื่อศาลไปเห็นอาการเจ็บป่วยของโจทก์ถึงขนาดไม่สามารถเบิกความเป็นพยานได้ ศาลก็ย่อมจะให้เลื่อนคดีไปได้แต่โจทก์ก็ไม่ได้แสดงความประสงค์เช่นนั้น จะขอเลื่อนคดีไปอย่างเดียวอันเป็นการประวิงคดีให้ชักช้า ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อน โดยสั่งยกคำร้องของโจทก์เสียและสั่งว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบ ชอบแล้ว
เมื่อโจทก์มีแต่ทนายโจทก์เบิกความเป็นพยานเพียงปากเดียวข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาจึงฟังไม่ได้ว่าโจทก์จำเลยได้เข้าหุ้นส่วนกันจริงต้องยกฟ้องโจทก์อยู่แล้ว ไม่จำต้องวินิจฉัยเรื่องฟ้องเคลือบคลุมพิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น