คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1464/2495

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เรื่องจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ โจทก์มิได้ยื่นคำร้องให้นัดพิจารณาภายใน 15 วัน นั้นตามบทบัญญัติใน ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 198 เพียงแต่บัญญัติให้อำนาจศาลที่จะสั่งจำหน่ายคดีเมือพ้น 15 วันได้ ฉะนั้นศาลย่อมมีอำนาจที่จะสั่งให้ดำเนินการพิจารณาฝ่ายเดียวได้ เมื่อโจทก์ร้องขอ แม้จะเป็นเวลาภายหลัง 15 วันในเมื่อศาลยังมิได้สั่งจำหน่ายคดีนั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลย จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ และมิได้มาศาล เมื่อศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์แล้ว พิพากษาให้จำเลยใช้เงินตามฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ที่จำเลยฎีกาว่า นายเกษม ล่ำซำ ไม่มีอำนาจฟ้องคดี ก็ได้ความตามฟ้องว่านายเกษม ล่ำซำ เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท มีอำนาจลงลายมือชื่อประทับตราผูกพันบริษัทได้ ซึ่งจำเลยมิได้ให้การโต้แย้งอย่างใด จึงไม่มีเหตุผลที่จะไม่รับฟัง
เรื่องจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ โจทก์มิไดืยื่นคำร้องให้นัดพิจารณาภายใน ๑๕ วัน ศาลชอบที่จำหน่ายคดีเสียนั้น เห็นว่าตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา ๑๙๘ เพียงแต่บัญญัติให้อำนาจศาลที่จะสั่งจำหน่ายคดีเมื่อพ้น ๑๕ วันได้ ฉะนั้นศาลย่อยมีอำนาจที่จะสั่งให้ดำเนินการพิจารณาคดีฝ่ายเดียวได้เมื่อโจทก์ร้องขอในเมื่อศาลยังมิได้สั่งจำหน่ายคดี

Share