คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1459/2527

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บรรยายฟ้องว่าจำเลยจงใจกล่าวข้อความลงในหนังสือถึงกองทัพอากาศมีข้อความว่า โจทก์ถูกปลดจากการเป็นพนักงานของการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยเพราะโจทก์เป็นบุคคลมีมลทินมัวหมองดังนี้ ถือได้ว่าโจทก์ได้กล่าวไว้โดยบริบูรณ์ซึ่งถ้อยคำ อันเกี่ยวกับข้อหมิ่นประมาท ชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 แล้ว ปรากฏตามฟ้องของโจทก์และหนังสือที่โจทก์ส่งศาลว่าโจทก์ขอกลับเข้ารับราชการในกองทัพอากาศ กองทัพอากาศสอบถามไปยังการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยถึงเหตุที่โจทก์ถูกปลดจากการเป็นพนักงานของการท่าอากาศยานฯ จำเลยในฐานะ ผู้ว่าการการท่าอากาศยานฯจึงมีหนังสือตอบกองทัพอากาศว่าโจทก์ ถูกปลดเพราะมีมลทินมัวหมอง ดังนี้ การที่จำเลยมีหนังสือ ถึงกองทัพอากาศดังกล่าว มิใช่เป็นการโฆษณาด้วยเอกสารตามความหมายของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 และเมื่อโจทก์บรรยายฟ้องด้วยว่าโจทก์ถูกปลดเพราะถูกกล่าวหาว่าทำโจรกรรมทรัพย์สินของการท่าอากาศยานฯ การที่จำเลยมีหนังสือถึงกองทัพอากาศดังกล่าว จึงเป็นการแสดงข้อความโดยสุจริตของเจ้าพนักงานผู้ปฏิบัติการตามหน้าที่ ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท เมื่อการกระทำของจำเลยตามที่โจทก์บรรยายในฟ้องไม่เป็นความผิดตามบทมาตราที่ขอให้ลงโทษแล้ว ศาลชอบที่จะยกฟ้องได้เลยโดยไม่จำต้องไต่สวน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีตำแหน่งเป็นผู้ว่าการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยเดิมโจทก์รับราชการเป็นทหารอากาศ สังกัดกรมการบินพลเรือน กองทัพอากาศต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2522 โจทก์เป็นพนักงานของการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยเมื่อ พ.ศ. 2523 การท่าอากาศยานฯ ได้กล่าวหาว่าโจทก์กระทำโจรกรรมทรัพย์สินของการท่าอากาศยานฯ ซึ่งไม่เป็นความจริงและได้ปลดโจทก์ออกจากงานในปีนั้นเมื่อระหว่างวันที่ 21 กันยายนถึงประมาณเดือนตุลาคม 2524 จำเลยได้จงใจกล่าวข้อความลงในหนังสือของการท่าอากาศยานฯ ลงวันที่ 21 กันยายน 2524 ถึงกองทัพอากาศมีข้อความว่าโจทก์ถูกปลดจากการเป็นพนักงานของการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยเพราะโจทก์เป็นบุคคลมีมลทินมัวหมองในการทำโจรกรรมดังกล่าวและจำเลยทราบดีว่าไม่เป็นความจริง ทั้งนี้โดยเจตนาให้โจทก์ต้องเสียชื่อเสียงเสียเกียรติคุณโจทก์ทราบการกระทำของจำเลยเมื่อประมาณปลายเดือนตุลาคม 2524เหตุเกิดที่การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ดอนเมือง แขวงบางเขน กรุงเทพมหานครและที่แขวงสายไหม เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร เกี่ยวพันกัน โจทก์ได้ร้องทุกข์ไว้แล้วและได้ฟ้องคดีภายในกำหนดอายุความ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 328

ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์ส่งสำเนาหนังสือที่อ้างว่ามีถ้อยคำหมิ่นประมาทโจทก์มาด้วยภายใน 3 วัน โจทก์ส่งหนังสือของกรมกำลังพลทหารอากาศต่อศาล ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าหนังสือดังกล่าวมิใช่เอกสารที่จำเลยทำขึ้น โจทก์ไม่มีเอกสารที่อ้างว่าจำเลยหมิ่นประมาท ไม่ปรากฏว่า จำเลยกระทำผิดดังโจทก์ฟ้อง จึงให้ยกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์มิได้ส่งเอกสารที่อ้างว่า จำเลยหมิ่นประมาทมากับฟ้อง ที่ศาลยกฟ้องโดยมิได้ไต่สวนมูลฟ้อง จึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 161 และตามฟ้องนั้นพฤติการณ์ถือได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกล่าวโดยสุจริต อยู่ในวิสัยของการติชมด้วยความเป็นธรรมไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทอีกด้วย พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยในฐานะผู้ว่าการการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยได้มีหนังสือที่ ทอท.34212524 ลงวันที่ 21กันยายน 2524 ถึงกองทัพอากาศว่าโจทก์มีมลทินมัวหมอง ถือได้ว่าฟ้องของโจทก์ได้กล่าวไว้โดยบริบูรณ์ซึ่งถ้อยคำอันเกี่ยวกับข้อหมิ่นประมาทแล้ว แม้โจทก์จะมิได้ส่งสำเนาหนังสือดังกล่าวติดมาท้ายฟ้องและมิได้ส่งศาลตามคำสั่งศาลชั้นต้นก็ถือว่าฟ้องโจทก์ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 แล้วอย่างไรก็ตามปรากฏตามฟ้องของโจทก์และหนังสือกรมกำลังพลทหารอากาศลงวันที่ 26 ตุลาคม 2524 ที่โจทก์ส่งศาลว่าเมื่อโจทก์ถูกปลดจากการเป็นพนักงานของการท่าอากาศยานฯ แล้ว โจทก์ซึ่งเคยรับราชการในกองทัพอากาศมาก่อนขอกลับเข้ารับราชการในกองทัพอากาศ กองทัพอากาศได้สอบถามการท่าอากาศฯถึงเหตุที่โจทก์ถูกปลดจำเลยในฐานะผู้ว่าการการท่าอากาศยานฯ จึงได้มีหนังสือที่ ทอท.34212524 ลงวันที่ 21 กันยายน 2524 ถึงกองทัพอากาศว่า โ่จทก์ถูกปลดเพราะมีมลทินมัวหมอง โจทก์เองก็ได้บรรยายฟ้องว่า โจทก์ถูกปลดเพราะถูกกล่าวหาว่าทำโจรกรรมทรัพย์สินของการท่าอากาศยาน ฯ ดังนั้น ที่จำเลยมีหนังสือดังกล่าวถึงกองทัพอากาศจึงมิใช่เป็นเรื่องการโฆษณาด้วยเอกสารตามความหมายของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ทั้งข้อความในหนังสือดังกล่าวที่ว่าโจทก์ถูกปลดเพราะมีมลทินมัวหมองก็เป็นการแสดงข้อความไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นโดยสุจริต เพราะโจทก์ถูกปลดจากงานในท่าอากาศยาน ฯ เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าโจรกรรมทรัพย์สินของการท่าอากาศยานฯ แม้ความจริงจะเป็นดังที่โจทก์ฟ้องการกระทำของจำเลยก็ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท เพราะเป็นการแสดงข้อความโดยสุจริตของเจ้าพนักงานผู้ปฏิบัติการตามหน้าที่ เมื่อการกระทำของจำเลยตามที่โจทก์บรรยายในฟ้องไม่เป็นความผิดตามบทมาตราที่ขอให้ลงโทษแล้ว ศาลก็ชอบที่จะพิพากษายกฟ้องได้เลย โดยไม่จำต้องไต่สวนมูลฟ้องและดำเนินการพิจารณาเสียก่อน ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล

พิพากษายืน

Share