คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1454/2530

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเช่า บ้านและอาคารโจทก์โดยไม่ได้ทำสัญญาเช่าขอให้ขับไล่ จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่าสัญญาเช่าระหว่างโจทก์จำเลยเป็นสัญญาต่างตอบแทน ขอให้ศาลบังคับให้โจทก์ปฏิบัติตามสัญญาต่างตอบแทนโดยยินยอมให้จำเลยเช่า อาคารและบ้านมีกำหนดเวลา20 ปี หากโจทก์ไม่อาจให้เช่า ได้ก็ขอให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินเดือนละ 500,000 บาท คำขอให้ชดใช้ค่าเสียหายจึงเกี่ยวเนื่องกับคำขอที่บังคับให้ปฏิบัติตามสัญญานั่นเอง เมื่อศาลล่างยอมรับฟ้องแย้งในส่วนที่ขอให้บังคับตามสัญญาต่างตอบแทน คำขอในส่วนค่าเสียหายเดือนละ500,000 บาท จึงเกี่ยวกับฟ้องเดิม ศาลล่างจึงต้องรับฟ้องแย้งในส่วนนี้ด้วย.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเช่าอาคารและบ้านของโจทก์ โดยมิได้ทำสัญญาเช่า ต่อมาโจทก์ประสงค์จะใช้บ้านดังกล่าว จึงบอกเลิกสัญญาเช่ากับจำเลย แต่จำเลยไม่ยอมออกจากที่เช่า จึงขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่เช่าและชดใช้ค่าเสียหาย
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า การเช่าระหว่างโจทก์จำเลยเป็นสัญญาต่างตอบแทนโดยเริ่มเช่าตั้นแต่ปี พ.ศ. 2520 มีกำหนดเวลา 10 ปี และตกลงให้จำเลยปลูกสร้างต่อเติมอาคารโรงจอดรถแล้วให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ จำเลยต้องใช้จ่ายเป็นเงินสองล้านบาทเศษ และเมื่อปีพ.ศ. 2526 โจทก์ตกลงให้จำเลยเช่าบ้านอีกหลังหนึ่งและที่ว่างหลังโรงรถ โดยมีข้อตกลงให้จำเลยรื้อโรงรถชั่วคราวและรั้วเดิมออกแล้วสร้างขึ้นใหม่พร้อมกับสร้างอาคารชั้นเดียวในที่ว่างอีก 2 หลัง และให้กรรมสิทธิตกเป็นของโจทก์ ทั้งนี้โดยโจทก์จะให้จำเลยเช่าต่อไปอีก10 ปี นับต่อจากการเช่าครั้งแรกจำเลยต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นเงินอีก1,500,000 บาท โจทก์ผิดสัญญาต่างตอบแทนทำให้จำเลยต้องลงทุนก่อสร้างสองครั้งเป็นเงินสามล้านบาท และต้องเสียหายเพราะไม่ได้ประกอบการค้าขาดรายได้เดือนละไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท ขอให้ยกฟ้องโจทก์และบังคับให้โจทก์ปฏิบัติตามสัญญาต่างตอบแทนโดยให้จำเลยเช่าเป็นเวลา 20 ปีหากไม่อาจจะให้เช่าได้ถึง 20 ปี ก็ให้โจทก์ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินเดือนละ 500,000 บาท
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับคำให้การและฟ้องแย้งเฉพาะที่ขอให้โจทก์ปฎิบัติตามสัญญาต่างตอบแทน ส่วนฟ้องแย้งที่ขอให้โจทก์ชดใช้ค่าเสียหายเป็นรายเดือนเดือนละ 500,000 บาท เป็นฟ้องที่มีเงื่อนไขและไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม จึงไม่รับฟ้องแย้งในส่วนนี้
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา177, 179 จำเลยอาจฟ้องแย้งรวมมาในคำให้การได้ถ้าฟ้องแย้งและฟ้องเดิมเกี่ยวกันพอที่จะรวมพิจารณาและชี้ขาดตัดสินเข้าด้วยกันได้ ดังนั้นปัญหาวินิจฉัยมีว่า ฟ้องแย้งของจำเลยเฉพาะในส่วนที่ขอให้โจทก์ชดใช้ค่าเสียหายเดือนละ 500,000 บาทนั้น เกี่ยวข้องกับฟ้องเดิมพอที่จะรวมการพิจารณาและชี้ขาดตัดสินเข้าด้วยกันได้หรือไม่
ปัญหานี้ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า สัญญาเช่าระหว่างโจทก์จำเลยเป็นสัญญาต่างตอบแทน ขอให้ศาลบังคับให้โจทก์ปฏิบัติตามสัญญาต่างตอบแทนโดยยินยอมให้จำเลยเช่าอาคารและบ้านมีกำหนดเวลา 20 ปี หากโจทก์ไม่อาจให้เช่าได้ก็ขอให้โจทก์ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินเดือนละ 500,000 บาท คำขอให้ชดใช้ค่าเสียหายจึงเกี่ยวเนื่องกับคำขอที่บังคับให้ปฏิบัติตามสัญญานั่นเอง เมื่อศาลล่างทั้งสองยอมรับฟ้องแย้งที่ขอให้บังคับให้โจทก์ปฎิบัติตามสัญญาต่างตอบแทนโดยยินยอมให้จำเลยเช่ามีกำหนดเวลา 20 ปี แสดงว่าคำขอส่วนนี้เกี่ยวข้องกับฟ้องเดิม ดังนั้นคำขอในส่วนค่าเสียหายเดือนละ 500,000บาท จึงเกี่ยวข้องกับฟ้องเดิมด้วย ที่ศาลล่างทั้งสองไม่ยอมรับฟ้องแย้งในส่วนที่เกี่ยวกับค่าเสียหายเดือนละ 500,000 บาทนั้นไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้รับฟ้องแย้งของจำเลยในส่วนที่เกี่ยวกับค่าเสียหายเดือนละ 500,000 บาทด้วย ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ”.

Share