คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1451/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องโจทก์ในชั้นแรกขอให้ศาลบังคับจำเลยจ่ายค่าชดเชยค่าเสียหาย และเงินโบนัส พร้อมทั้งดอกเบี้ย ต่อมาโจทก์แถลงไม่ติดใจเรียกค่าเสียหาย และเงินโบนัสกับดอกเบี้ย คำขอท้ายฟ้องของโจทก์จึงเหลือเพียงข้อเดียว คือเรียกให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยเพราะเลิกจ้างโจทก์อันเป็นการอาศัยสิทธิ ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน หาใช่เป็นการ ฟ้อง ว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่เป็นธรรมตามพระราชบัญญัติ จัดตั้งศาลแรงงานฯ ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เดิมโจทก์รับราชการในกรมไปรษณีย์โทรเลข แล้วโจทก์ได้โอนมาสังกัดกับจำเลย จำเลยได้กล่าวหาว่าโจทก์กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่และประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงตามข้อบังคับของจำเลย มีคำสั่งปลดโจทก์ออกจากงานโดยไม่จ่ายค่าชดเชยและเงินโบนัส ต่อมาจำเลยร้องทุกข์ดำเนินคดีอาญากับโจทก์ในข้อหาทุจริตต่อหน้าที่ เป็นเหตุให้โจทก์ถูกฟ้องคดีอาญาศาลพิพากษายกฟ้อง คดีถึงที่สุดแล้ว ขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าชดเชย ค่าเสียหายเงินโบนัส กับดอกเบี้ย

จำเลยให้การว่า จำเลยมีคำสั่งปลดโจทก์เพราะโจทก์กระทำการทุจริตต่อหน้าที่และกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าชดเชย เงินโบนัสกับดอกเบี้ย ขอให้ยกฟ้อง

วันนัดพิจารณาโจทก์แถลงว่า ไม่ติดใจเรียกค่าเสียหาย เงินโบนัสกับดอกเบี้ยจากจำเลย

ก่อนสืบพยาน จำเลยยื่นคำแถลงขอให้ศาลมีคำสั่งวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ศาลมีคำสั่งว่าจะได้วินิจฉัยสั่งในคำพิพากษา

ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า โจทก์มีอำนาจฟ้อง ข้อเท็จจริงตามที่จำเลยนำสืบมาฟังไม่ได้ว่าโจทก์กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงตามข้อบังคับของจำเลยอันจะเป็นเหตุให้จำเลยเลิกจ้างโจทก์ได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย พิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์

จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า จำเลยอุทธรณ์ว่าฟ้องโจทก์หมายความว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่เป็นธรรม จึงเป็นการฟ้องโดยอาศัยสิทธิตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 49 แต่พระราชบัญญัติดังกล่าวเพิ่งประกาศใช้บังคับเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม2522 ซึ่งเป็นเวลาภายหลังที่จำเลยเลิกจ้างโจทก์แล้ว โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องคดีพิเคราะห์แล้วตามฟ้องของโจทก์ในชั้นแรกขอให้ศาลบังคับจำเลยจ่ายค่าชดเชยค่าเสียหาย และเงินโบนัส พร้อมทั้งดอกเบี้ย ต่อมาโจทก์แถลงไม่ติดใจเรียกค่าเสียหายและเงินโบนัสกับดอกเบี้ย คำขอท้ายฟ้องของโจทก์จึงเหลือเพียงข้อเดียวที่ขอบังคับ คือเรียกให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยเพราะเหตุที่เลิกจ้างโจทก์โดยอ้างว่าจำเลยมีคำสั่งปลดโจทก์ออกจากงานเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2521 คำฟ้องของโจทก์ที่ขอให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยนั้นอาศัยสิทธิตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่ 16 เมษายน 2515ข้อ 46, (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 13 มิถุนายน 2517 ข้อ 1 ซึ่งใช้บังคับอยู่ขณะที่เลิกจ้างหาใช่เป็นการฟ้องว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่เป็นธรรมตามมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 ไม่โจทก์จึงไม่อำนาจฟ้อง

พิพากษายืน

Share