คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1451/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์นำยึดสังหาริมทรัพย์เพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษา แต่เป็นทรัพย์ซึ่งจำเลยจำนำไว้กับผู้ร้อง เช่นนี้ เมื่อผู้ร้องร้องเข้ามาหากกองหมายขายทอดตลาดแล้วได้เงินเท่าใดต้องหักใช้หนี้ผู้ร้องก่อน
การจำนำ ไม่มีกฎหมายบังคับว่าต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ(อ้างฎีกาที่ 200/2496)

ย่อยาว

ได้ความว่าศาลยึดสังหาริมทรัพย์ 3 รายการ ตามที่โจทก์ขอให้ยึดเพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษา แต่ทรัพย์ดังกล่าวจำเลยจำนำผู้ร้องไว้เพื่อประกันหนี้จำนวน 40,000 บาท
ผู้ร้องขอให้ถอนการยึดเพื่อผู้ร้องจะได้บังคับจำนำหรือให้กองหมายขายเอาเงินชำระหนี้ผู้ร้องก่อน
โจทก์ว่าไม่มีหลักฐานเป็นเอกสารจึงไม่เป็นจำนำ และเป็นโมฆะ
คู่ความไม่สืบพยาน
ศาลแพ่งเห็นว่า ผู้ร้องมีสิทธิได้รับชำระหนี้รายนี้ก่อนบุริมสิทธิในมูลซื้อขายสังหาริมทรัพย์ (คือ จำเลยซื้อเชื่อสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวไปจากโจทก์) จึงมีคำสั่งว่า เมื่อกองหมายขายทอดตลาดแล้ว ได้เงินเท่าใด ให้หักใช้หนี้ผู้ร้องก่อน
ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาพิพากษายืน
ข้อวินิจฉัยของศาลฎีกามีว่า ในเรื่องจำนำไม่มีกฎหมายบังคับว่าต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ เรื่องนี้จำเลยมอบทรัพย์ที่พิพาทให้ผู้ร้องไว้เป็นประกันการชำระหนี้เงิน 40,000 บาทที่จำเลยได้เอาของผู้ร้องไปเป็นการครบถ้วนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 747 แล้ว จึงไม่เป็นโมฆะอย่างที่โจทก์โต้เถียงมา ดังที่ศาลฎีกาได้เคยพิพากษาไว้โดยฎีกาที่ 200/2496

Share